ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

บริษัทบัญชีวิเคราะห์ตลาดสุขภาพสหรัฐอเมริกา มีแนวโน้มกลับมาเติบโตในปีนี้ เพราะความต้องการบริการสุขภาพที่เพิ่มขึ้น เน้น 3 บริการที่มีโอกาสเติบโตสูง ได้แก่ การให้บริหารองค์กรทางการแพทย์ ดูแลสุขภาพผู้ป่วยถึงบ้าน และปรับพฤติกรรมที่ส่งผลต่อสุขภาพ

เมื่อวันที่ 28 มี.ค. ที่ผ่านมา CliftonLarsonAllen (CLA) บริษัทบัญชีสัญชาติอเมริกัน เผยแพร่บทความวิเคราะห์การทำธุรกรรมในภาคส่วนสุขภาพ ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในปีนี้ จากที่ชะลอตัวตลอดปี 2566

การทำธุรกรรมทางสุขภาพลดลงเพราะความท้าทายเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นหลังวิกฤตโควิด-19 ไม่ว่าจะเป็นการขาดการการเข้าถึงแรงงานที่มีความสามารถ ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นเพราะเงินเฟ้อ และดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้นจนทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจซบเซา

อัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นทำให้กระบวนการทำสัญญาซื้อขายในภาคส่วนสุขภาพล่าช้าลง ผู้ซื้อและผู้ขายต้องพิจารณาหลายปัจจัย ทั้งรายได้ก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และการผ่อนชำระหนี้

ผู้ซื้อและผู้ขายยังคาดหวังการประเมินมูลค่าธุรกรรมที่ต่างกัน และแสดงความกังวลต่อการปรับเปลี่ยนกฎหมายด้านการทำธุรกรรมในยุคของรัฐบาลโจ ไบเดิน

ข้อมูลจาก CLA ชี้ว่า การทำธุรกรรมในตลาดบริการสุขภาพของสหรัฐฯ ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2566 น้อยกว่าเกือบ 100 รายการเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2565 

ธุรกรรมเกิดขึ้นโดยกลุ่มบริษัทให้บริการด้านการดูแลสุขภาพ ผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพถึงบ้าน โรงพยาบาล ผู้ให้บริการด้านพฤติกรรมที่ส่งผลต่อสุขภาพ แล็บตรวจโรค ผู้ให้บริการกายภาพบำบัด และผู้บริหารจัดการด้านการดูแลสุขภาพ ปี 2566 ยังเป็นปีที่มีการควบรวมบริษัทด้านสุขภาพมากอย่างมีนัยสำคัญ

อย่างไรก็ดี CLA ระบุว่า ตลาดบริการสุขภาพในสหรัฐฯ ยังคงมีความน่าสนใจ และมีโอกาสมากมาย เพราะค่าใช้จ่ายด้านการดูแลสุขภาพคิดเป็นเป็นประมาณ 17% ของจีดีพี และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเป็น 20% หรือเพิ่มขึ้นถึง 67% ภายในปี 2574 

นั่นสะท้อนถึงโอกาสการเติบโตของตลาดสุขภาพ ทั้งยังมีภาคส่วนบริการหลายประเภทที่มีแนวโน้มเติบโตได้อีก

หนึ่งในนั้นคือบริการบริหารองค์กรทางการแพทย์ ซึ่งเป็นสาขาเฉพาะที่มีความต้องการสูง แพทย์จำนวนมากที่เปิดคลินิกเองประสบกับความท้าทายจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น มีภาระที่เกิดจากข้อบังคับทางกฎหมาย ทั้งยังต้องปรับตัวให้ทันภูมิทัศน์บริการสุขภาพที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เช่น รูปแบบการชำระเงินที่วัดจากผลลัพธ์การรักษา การใช้ปัญญาประดิษฐ์ และการแข่งขันระหว่างผู้ให้บริการ

ผู้ให้บริการบริหารองค์กรทางการแพทย์ สามารถช่วยลดภาระงานด้านการจัดการภายในองค์กร ส่งเสริมการเข้าถึงเทคโนโลยีที่เพิ่มผลตอบแทน CLA คาดการณ์ว่าบริการด้านนี้จะเติบโตในอัตราเดียวกับค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพของประเทศ คิดเป็น 20% ของค่าใช้จ่ายด้านการดูแลสุขภาพทั้งหมด

บริการดูแลสุขภาพที่บ้านและจัดสถานที่พักให้ผู้ป่วย เป็นอีกหนึ่งบริการที่มีโอกาสเติบโตได้อีก การทำธุรกรรมบริการด้านนี้ฟื้นขึ้นอย่างรวดเร็วภายหลังวิกฤตโควิด-19 ซึ่งผู้ป่วยเริ่มมองหาทางเลือกการดูแลสุขภาพที่บ้าน ขณะที่ผู้ให้บริการแสดงให้เห็นศักยภาพในการจัดบริการด้านนี้ ด้วยการให้บริการกลุ่มประชากรที่ต้องการความช่วยเหลือขณะพักฟื้นที่บ้านได้อย่างไร้รอยต่อ 

ค่าใช้จ่ายด้านการดูแลสุขภาพที่บ้านมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นประมาณ 8% ต่อปี และสามารถเพิ่มขึ้นถึง 100% ใน 10 ปีข้างหน้า หรือระหว่างปี 2564-2574 เป็นอัตราส่วนที่เพิ่มมากกว่าบริการดูแลสุขภาพทั่วไป ที่จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเพียง 67% 

บริการปรับพฤติกรรมที่ส่งผลต่อสุขภาพ ได้รับความสนใจในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา รวมทั้งในระหว่างการระบาดของเชื้อโควิด-19 

ตัวอย่างบริการ ได้แก่ การให้คำปรึกษา ฟื้นฟู และรักษาผู้ใช้สารเสพติด, บริการรักษาโรคออทิสติก, บริการกระตุ้นพัฒนาการและทักษะการรู้คิดที่เกิดจากความพิการของสมอง, การให้คำปรึกษาแก่ผู้มีพฤติกรรมรับประทานอาหารผิดปกติ, การให้คำปรึกษาเกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป และการรักษาโรคที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพจิต

บริการสำหรับผู้ใช้สารเสพติดและผู้เป็นโรคออทิสติก เป็นภาคส่วนที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนอยู่แล้ว ขณะที่บริการด้านสุขภาพจิตกำลังได้รับความสนใจมากที่สุดตอนนี้


อ้างอิง: https://www.claconnect.com/en/resources/articles/24/health-care-transaction-trends-deals-expected-to-rebound-in-2024