ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สปส. ชู สิทธิประโยชน์ดูแลผู้ประกันตน ม.33-39 ป่วยโรคไตทุกระยะ รักษาฟรี ใน รพ. ที่กำหนด เผย ปัจจุบันมีมาใช้สิทธิแล้วกว่า 1.7 หมื่นคน จ่ายชดเชยแล้ว 300 ล้านบาท


นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กระทรวงแรงงาน (รง.) กล่าวถึง สิทธิผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมที่ป่วยด้วยโรคไตว่า เป็นโรคที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพผู้ประกันตนเป็นอันมาก และยังเป็นโรคเรื้อรังไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ซึ่งต้องได้รับการดูแลรักษาไปตลอดชีวิตทาง สปส. จึงได้ให้ความคุ้มครองผู้ประกันตนมาตรา 33 และผู้ประกันตนมาตรา 39 ที่ป่วยด้วยโรคไตทุกระยะสามารถเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลที่กำหนดสิทธิได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด 

ทั้งนี้ กรณีผู้ประกันตนที่เจ็บป่วยด้วยโรคไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย สามารถรับสิทธิกรณีการบำบัดทดแทนไต ดังนี้ 1. การฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม ให้สิทธิในอัตราไม่เกิน 1,500 บาท ต่อครั้ง และไม่เกิน 4,500 บาท ต่อสัปดาห์ (เดือนละ 1.8 หมื่นบาท) และจ่ายค่าเตรียมหลอดเลือดสำหรับการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม เท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 2 หมื่นบาทต่อราย ต่อระยะเวลา 2 ปี หากภายในระยะเวลา 2 ปี ผู้ประกันตนมีความจำเป็นต้องเตรียมหลอดเลือดหรือแก้ไขหลอดเลือด จ่ายเพิ่มอีกไม่เกิน 1 หมื่นบาท 

2. การล้างช่องท้องด้วยน้ำยาอย่างถาวร ให้สิทธิไม่เกินเดือนละ 2 หมื่นบาท และจ่ายค่าวางท่อรับส่งน้ำยาเข้าออกช่องท้องพร้อมอุปกรณ์ ในอัตราไม่เกิน 2 หมื่นบาทต่อราย ต่อระยะเวลา 2 ปี หากภายในระยะเวลา 2 ปี ผู้ประกันตนมีความจำเป็นต้องวางท่อรับส่งน้ำยาล้างช่องท้อง จ่ายเพิ่มอีกไม่เกิน 1 หมื่นบาท 3. การปลูกถ่ายไต ให้ได้รับสิทธิการบริการทางการแพทย์ ก่อน ระหว่าง หลังการผ่าตัดปลูกถ่ายไต และรับยากดภูมิคุ้มกันตลอดชีวิต  

4. สิทธิประโยชน์ (เพิ่มเติม) กรณีผู้ประกันตนที่เป็นโรคไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายที่ติดเชื้อเอชไอวี จะจ่ายค่าฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมให้แก่สถานพยาบาลที่สำนักงานประกันสังคมกำหนดในอัตราที่จ่ายจริงไม่เกิน 4,000 บาท ต่อครั้ง และไม่เกิน 1.2 บาทต่อสัปดาห์

2

เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวว่า สำหรับจำนวนผู้ประกันตนที่เจ็บป่วยด้วยโรคไตวาย มาขอใช้สิทธิการรักษาโดยการบำบัดทดแทนไตวายเรื้อรังแล้วกว่า 17,807 ราย สปส. จ่ายประโยชน์ทดแทนไปแล้ว 364,457,357.25 ล้านบาท ซึ่งในปัจจุบันมีสถานพยาบาลที่อยู่ในความตกลงกับ สปส. เพื่อให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมให้กับผู้ประกันตน จำนวน 960 แห่ง แบ่งเป็น สถานพยาบาลรัฐ 392 แห่ง องค์กรมหาชน 2 แห่ง และเอกชน 566 แห่ง 

นายบุญสงค์ กล่าวต่อไปว่า ในจำนวนดังกล่าวมีสถานพยาบาลที่ทำความตกลงกับ สปส. กรณีการผ่าตัดปลูกถ่ายไตจำนวน 23 แห่ง สถานพยาบาลที่ให้บริการล้างช่องท้องด้วยน้ำยาอย่างถาวรจำนวน 103 แห่ง โดยตั้งแต่เดือน ม.ค.-พ.ค. 2566 มีผู้ประกันตนที่ได้รับสิทธิกรณีฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมจำนวน 1,281 ราย กรณีล้างช่องท้องด้วยน้ำยาแบบถาวรจำนวน 65 ราย และปลูกถ่ายไตจำนวน 440 ราย

นายบุญสงค์ กล่าวในตอนท้ายว่า สำหรับผู้ประกันตนที่ประสงค์จะใช้สิทธิบำบัดทดแทนไต จะต้องยื่นขอรับการอนุมัติก่อน ที่ สปส. กรุงเทพมหานครพื้นที่ จังหวัด และสาขา ที่ต้องการใช้สิทธิ โดยเตรียมเอกสารประกอบ ได้แก่ แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีบำบัดทดแทนไตและปลูกถ่ายอวัยวะ หรือการดูแลหลังผ่าตัดปลูกถ่ายอวัยวะและรับยากดภูมิคุ้มกันกองทุนประกันสังคม (สปส. 2-18) สำเนาเวชระเบียนในส่วนที่เกี่ยวข้อง 

รวมถึงใบรับรองแพทย์กรณีผู้ประกันตนขอรับการบำบัดทดแทนไต หนังสือรับรองจากอายุรแพทย์โรคไต สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน กรณีผู้ประกันตนต่างชาติที่ทำงานในประเทศไทย ต้องมีสำเนาหนังสือเดินทาง Passport หรือหนังสือสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว (เฉพาะต่างชาติ/ต่างด้าว) ใบอนุญาตทำงานถูกต้องตามกฎหมาย โดยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ จังหวัด หรือสาขา ทั่วประเทศ หรือสายด่วนประกันสังคม โทร.1506 (เจ้าหน้าที่ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง)