ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กรมควบคุมโรค เผยการติดเชื้อ "ไข้หวัดใหญ่" ปี 2564 ลดลงมากกว่า 10 เท่า จากการป้องกันตามมาตรการโควิด-19 พร้อมรณรงค์ดูแลสุขอนามัยต่อช่วงหน้าหนาว ชี้มีโอกาสระบาดเพิ่ม ย้ำประชาชนควรได้รับทั้งวัคซีนโควิด-ไข้หวัดใหญ่ ยืนยันฉีดได้ในคราวเดียวกัน


กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เผยแพร่ “พยากรณ์โรคและภัยสุขภาพรายสัปดาห์” ฉบับที่ 41/2564 ประจำสัปดาห์ที่ 47 วันที่ 21-27 พ.ย. 2564 ระบุว่า อัตราป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ในปีนี้มีแนวโน้มลดลง เนื่องจากประชาชนมีการป้องกันตนเองตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ซึ่งมีผลในการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ด้วยเช่นกัน ส่งผลให้การติดเชื้อโรคไข้หวัดใหญ่ของปี 2564 ลดลงมากกว่า 10 เท่าของปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้ จากการเฝ้าระวังของกรมควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. - 14 พ.ยง 2564 มีรายงานผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ 9,684 ราย และไม่มีผู้เสียชีวิต โดยกลุ่มอายุที่พบอัตราป่วยมากที่สุดคือ กลุ่มเด็กแรกเกิด - 4 ปี 40.32% รองลงมาคือกลุ่มอายุ 25-34 ปี 9.35% และกลุ่มอายุ 15-24 ปี 9.09% ตามลำดับ ส่วนจังหวัดที่มีอัตราป่วยสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ อุบลราชธานี พิษณุโลก เชียงราย น่าน และตาก ตามลำดับ

อย่างไรก็ตาม การพยากรณ์โรคและภัยสุขภาพของสัปดาห์นี้ คาดว่าในช่วงนี้จะมีโอกาสพบผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ได้ ซึ่งโรคดังกล่าวมักมีการระบาดช่วงฤดูหนาว ประกอบกับรัฐบาลมีนโยบายการเปิดประเทศ และกำหนดให้โรงเรียนกลับมาเปิดเรียนตามปกติ ซึ่งอาจมีการระบาดในกลุ่มนักเรียน ประชาชนจึงควรดูแลสุขอนามัยตนเองเพื่อป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ทุกสายพันธุ์

สำหรับการป้องกันนั้นให้มีการปิดปาก ปิดจมูกขณะไอ จาม และล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจล หลีกเลี่ยงการเอามือเข้าปาก หรือขยี้ตา ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับคนอื่น เช่น ผ้าเช็ดตัว แก้วน้ำ หลีกเลี่ยงคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วย และเมื่อป่วยควรหยุดเรียน หยุดงาน หยุดกิจกรรมในสถานที่แออัด รวมถึงการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ ซึ่งการฉีดวัคซีนจะช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดโรคไข้หวัดใหญ่ได้  และยิ่งเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงจะเกิดภาวะแทรกซ้อนตามมา ควรเข้ารับการฉีดป้องกันเพื่อผลลัพธ์ที่ดี

"สำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 ไปแล้ว ควรได้รับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ด้วย เนื่องจากเป็นเชื้อไวรัสคนละชนิดกัน ประชาชนควรได้รับวัคซีนทั้ง 2 ตัว และให้ฉีดห่างกัน 2 สัปดาห์ หรือสามารถฉีดพร้อมกับวัคซีนโควิด-19 ได้ในคราวเดียวกัน โดยเฉพาะประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง เพื่อป้องกันการเกิดโรคปอดบวม ทั้งยังช่วยลดความรุนแรงของโรคและลดความเสี่ยงการเสียชีวิตจากภาวะแทรกซ้อนของผู้ป่วยลงได้" พยากรณ์ฉบับดังกล่าว ระบุ

ขณะเดียวกัน กรมควบคุมโรคได้ขอรณรงค์และเชิญชวนให้ประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง เข้ารับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ได้ที่สถานบริการสาธารณสุขของรัฐใกล้บ้าน และสถานพยาบาลเอกชนที่เข้าร่วมโครงการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2564 โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422

อนึ่ง ประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ 1. หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป 2. เด็กอายุ 6 เดือน - 2 ปี 3. ผู้มีโรคเรื้อรังได้แก่ ปอดอุดกั้นเรื้อรังหอบหืดหัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย ผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ระหว่างการได้รับเคมีบำบัดและเบาหวาน 4. ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป 5. ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ 6. โรคธาลัสซีเมียและผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง ซึ่งรวมผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่มีอาการ และ 7. โรคอ้วน คือผู้ที่มีน้ำหนักตัวมากกว่า 100 กิโลกรัมหรือมีดัชนีมวลกายมากกว่า 35 กิโลกรัมต่อตารางเมตร