ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กรมควบคุมโรค ย้ำฉีดวัคซีนไฟเซอร์ 2 เข็ม ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันสู้สายพันธุ์เดลต้าได้ดีกว่า ส่วนผลข้างเคียงภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบในเด็กผู้ชาย โอกาสเกิดเพียง 6 ต่อแสนคน และหายได้เอง


นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยในการแถลงสถานการณ์ของโรคโควิด-19 เมื่อวันที่ 21 ต.ค. 2564 ระบุว่า ในการประชุมคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ได้พิจารณาแล้วว่าวัคซีนไฟเซอร์ที่นำมาฉีดให้เด็กนักเรียนอายุ 12-18 ปี ต้องฉีด 2 เข็มจึงจะมีระบบภูมิคุ้มกันที่เพียงพอต่อเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตา

ทั้งนี้ ในส่วนของความกังวลเรื่องการเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ผู้เชี่ยวชาญได้ประชุมหารือกันพบว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเกิดผลข้างเคียง แต่อาการที่เกิดขึ้นนั้นค่อนข้างน้อย หากเทียบกับเด็กที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนาแล้วเกิดการอักเสบทั่วร่างกาย (MIS-C) รวมถึงกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ อาการจากโรคจะมีโอกาสเกิดขึ้นได้มากกว่าการฉีดวัคซีน

ขณะเดียวกัน ผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนมักจะหายเองได้ จึงได้แนะนำให้ฉีดวัคซีนไฟเซอร์เข็ม 2 เด็กผู้ชายต่อไป โดยให้เป็นไปตามความสมัครใจ ขึ้นกับความประสงค์ของผู้ปกครองและนักเรียน รวมทั้งแนะนำให้งดออกกำลังกายหนักภายหลังได้รับวัคซีนเป็นเวลา 7 วัน หากมีภาวะใจสั่น หายใจไม่อิ่ม หอบเหนื่อย ให้รีบพบแพทย์

นพ.โอภาส กล่าวว่า ได้มีกุมารแพทย์โรคหัวใจในเด็กสรุปเรื่องการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ในเด็ก ซึ่งใช้คำจำง่ายว่า 3 R คือ 1. Real การเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบหลังการฉีดวัคซีน mRNA โดยเฉพาะเข็ม 2 มีโอกาสเกิดมากขึ้นในเด็กผู้ชายอายุ 12-16 ปี 2. Rare ถึงแม้ว่าจะเกิดแต่โอกาสเกิดมี 6 ต่อ 100,000 คน ถ้าเปรียบเทียบกับเด็กที่ติดเชื้อโควิดแล้วเกิดการอักเสบทั่วร่างกาย รวมถึงกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ

3. Recovery เด็กที่เกิดผลข้างเคียงอาการจะไม่มาก เจ็บหน้าอก เหนื่อยบ้าง ไม่รุนแรง ที่ผ่านมาเจอ 3-4 ราย จะหายได้เอง บางรายรักษาโดยการกินยาแก้อักเสบก็หายได้ โอกาสหายเองมีมากถึง 90% ถ้าเทียบกับการอักเสบของการติดเชื้อโควิด-19 โอกาสหายมีแค่ 50%

"คณะผู้เชี่ยวชาญจึงเห็นพ้องต้องกันว่า ให้ฉีด 2 เข็ม แต่ต้องขึ้นอยู่กับความสมัครใจของผู้ปกครอง ส่วนการฉีดวัคซีนให้กับเด็กนักเรียนได้ดำเนินการไปตั้งแต่ต้นเดือน ต.ค. ขณะนี้ฉีดวัคซีนให้กับนักเรียนแล้ว 2 ล้านโดส" นพ.โอภาส กล่าว

นพ.โอภาส กล่าวอีกว่า ในส่วนของแนวทางการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นของผู้ที่ฉีดวัคซีนซิโนฟาร์มครบ 2 เข็ม กำหนดการคาดว่าจะเป็นช่วงปลายเดือน พ.ย. และต้นเดือน ธ.ค. ซึ่งทางคณะอนุกรรมการฯ ขอให้ทางโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ส่งเอกสารหลักฐานที่มีการศึกษาพบว่าจำเป็นต้องฉีดเข็มกระตุ้นเนื่องจากภูมิคุ้มกันลดลง เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบก่อนจะพิจารณาและประกาศฉีดวัคซีนต่อไป