ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

เปิดผลสำรวจอนามัยโพล พบพฤติกรรมในบ้านในการป้องกันโควิด-19 ที่ทำกันน้อยที่สุดคือแยกกันกินอาหาร


นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า จากผลการสำรวจอนามัยโพล ประเด็น “ความกังวลและพฤติกรรมการป้องกันโรคโควิด-19 ในบ้าน” ล่าสุด พบว่า พฤติกรรมในการป้องกันโรคโควิด-19 ในบ้านที่ประชาชนทำได้มากที่สุดคือ การใช้อุปกรณ์ส่วนตัวแยกกับผู้อื่น ร้อยละ 48.6  รองลงมาคือ ทำความสะอาดอุปกรณ์หรือบริเวณที่จับร่วมกันบ่อยๆ ร้อยละ 44.7 แยกห้องนอน ร้อยละ 40.8 สวมหน้ากากตลอดเวลาในบ้าน (ยกเว้นตอนกินอาหาร ดื่มน้ำ อาบน้ำ) ร้อยละ 33.1

ในส่วนของพฤติกรรมที่ทำได้น้อยที่สุด คือ แยกกินอาหาร ร้อยละ 30.9 ดังนั้นจึงต้องเน้นย้ำให้มีการป้องกันโรคในบ้านเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากมีประชาชน ร้อยละ 64.4 ยังมีความกังวลว่าคนในครอบครัวที่ทำงานนอกบ้านจะนำเชื้อเข้ามาแพร่ในบ้าน

นอกจากนี้ ประชาชนเห็นด้วยกับพฤติกรรมสวมหน้ากากในบ้านขณะพูดคุย ร้อยละ 53.8 สวมเมื่อทำกิจกรรมร่วมกัน เช่น ดูทีวี ร้อยละ 44.6 และสวมหน้ากากตลอดเวลา ยกเว้นตอนกินอาหาร  ดื่มน้ำ อาบน้ำ ร้อยละ 40.5 และเมื่อสอบถามความสนใจเข้าร่วมกิจกรรมสวมหน้ากากในบ้านลดโรคทั่วไทย  เป็นเวลา 14 วัน พบว่า ประชาชน ร้อยละ 84.2 มีความสนใจเข้าร่วมกิจกรรม

ทั้งนี้ สมาชิกภายในบ้านยังคงต้องยกระดับมาตรการขั้นสูงสุด (Universal Prevention for COVID-19) ในการป้องกันการติดเชื้อในบ้าน โดยการประเมินความเสี่ยงของตนเองและคนในครอบครัว  ผ่าน “ไทยเซฟไทย” เน้นย้ำต้องสวมหน้ากากเมื่ออยู่ในบ้านร่วมกับผู้อื่น โดยเฉพาะเมื่ออยู่ใกล้กลุ่มเสี่ยง หรือผู้สูงอายุ รวมทั้งการเว้นระยะห่างกับบุคคลในบ้าน และหมั่นล้างมือบ่อยๆ เมื่อสัมผัสสิ่งของต่างๆ และให้งดการกินอาหารร่วมกับผู้อื่นไปอีกสักระยะหนึ่ง

สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ไปสัมผัสหรือใกล้ชิดผู้ติดเชื้อทั้งที่มีอาการและไม่มีอาการ ควรมีการตรวจคัดกรองเบื้องต้นด้วย Antigen Test Kit หรือ ATK เพื่อเฝ้าระวังและป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ในครอบครัว