ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สธ.ยืนยันวัคซีนไฟเซอร์อีก 6 แสนโดสไม่ได้หายจากระบบ แต่เป็นส่วนของพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดสำหรับฉีดเข็ม 2 ในกลุ่ม 608


นพ.เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค เปิดเผยเมื่อวันมี่ 9 ก.ย. 2564 ตอนหนึ่งว่า การประเมินสถานการณ์หลังมีการเปิดกิจการกิจกรรมวันที่ 1 ก.ย. เพื่อพิจารณาการเปิดกิจการ-กิจกรรมเพิ่มขึ้นในช่วง 2 สัปดาห์ถัดไป จะมีการพิจารณาจากองค์ประกอบหลายๆ ส่วน ไม่เฉพาะผู้ติดเชื้อรายใหม่ โดยกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จะยังเข้มข้นมาตรการคัดกรองกักตัวผู้เดินทางจากต่างประเทศและตามแนวชายแดนเพื่อเฝ้าระวังเชื้อกลายพันธุ์ด้วย

“หลายคนกังวลว่าขณะนี้มีการตรวจค้นหาเชิงรุกน้อยลงหรือไม่ ขอชี้แจงว่า ช่วงที่มีการระบาดมาก ทำให้มีผู้สัมผัสจำนวนมากจึงตรวจพบผู้ติดเชื้อจำนวนมาก แต่ช่วงนี้การระบาดลดลง ทำให้มีผู้สัมผัสเสี่ยงน้อยลง การตรวจจึงน้อยลงด้วย” นพ.เฉวตสรร กล่าว

สำหรับการเสียชีวิตที่ยังสูงกว่า 200 ราย มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่ผู้ติดเชื้อโควิดลดลงแล้วนั้น เนื่องจากเป็นผู้ติดเชื้อในช่วงที่มีการระบาดมาก หลายคนมีอาการรุนแรงและเสียชีวิตหลังการรักษาเฉลี่ย 1-2 สัปดาห์ บางรายอาจถึง 45 วัน ทำให้ตัวเลขผู้เสียชีวิตลดลงช้ากว่าผู้ติดเชื้อรายใหม่ โดยส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ กลุ่มโรคเรื้อรัง รวมทั้งหญิงตั้งครรภ์ที่ยังมีรายงานเสียชีวิตเกือบทุกวัน จึงขอให้กลุ่มเสี่ยงไปรับการฉีดวัคซีนโดยเร็ว

นพ.เฉวตสรร กล่าวว่า ข้อมูล ณ วันที่ 8 ก.ย. 2564  ในส่วนของวัคซีนไฟเซอร์ที่ได้รับบริจาค 1.5 ล้านโดส ฉีดเข็มแรก 391,074 โดส เข็มสอง 163,017 โดย และเข็มสาม 394,777 โดส รวมแล้วประมาณ 9 แสนกว่าโดส ที่เหลือ 6 แสนโดส ไม่ได้หายออกจากระบบ แต่จะใช้สำหรับฉีดเป็นเข็มสองในกลุ่มเสี่ยง 608 พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ซึ่งต้องเว้นระยะห่างจากเข็มแรก 3-4 สัปดาห์ โดยเป็นการทยอยส่งตามกำหนดที่จะต้องฉีดประชาชน เนื่องจากวัคซีนที่ออกจากอุณหภูมิติดลบ เมื่อส่งไปพื้นที่จะมีอายุสั้นลงเหลือเพียง 30 วัน