ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

"อุ๊งอิ๊ง" ขอบคุณ "ทักษิณ" ผลักดันให้เกิด "30 บาทรักษาทุกโรค" เมื่อ 22 ปีก่อน ด้าน รมว.สธ. เผยอยากทำให้เป็น "30 บาทรักษาทุกที่" ตั้งแต่สมัยนั้น แต่ติดข้อจำกัดเทคโนโลยี-การเมือง พร้อมขอบคุณประชาชนให้โอกาสพรรคกลับมาสานต่อ เดินหน้านโยบาย-ดูแลประชาชนอีกครั้ง


เมื่อเวลา 11.00 น. ที่โรงพยาบาลจตุรพักตรพิมาน จ.ร้อยเอ็ด นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข (สธ.) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร รองประธานคณะกรรมการพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติ คณะผู้บริหาร สธ. และคณะผู้บริหารสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) นำโดย นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการ สปสช.  ร่วมชมการสาธิตขั้นตอนการให้บริการของโรงพยาบาลจตุรพักตรพิมาน ตาม “นโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว” ซึ่งในวันนี้ ถือเป็นการคิกออฟวันแรกของการนำร่องนโยบาย 4 จังหวัด ได้แก่ แพร่ ร้อยเอ็ด เพชรบุรี และนราธิวาส

1

นพ.ชลน่าน เปิดเผยว่า นโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว ถือเป็นนโยบายที่พรรคเพื่อไทยประกาศรณรงค์ไว้ และถือเป็นสัญญาประชาคมว่าหากพรรคมีโอกาสเป็นรัฐบาล จะต้องดำเนินนโยบายนี้ ซึ่งเมื่อพี่น้องประชาชนให้ความไว้วางใจพรรคเพื่อไทยมาเป็นรัฐบาล นายกรัฐมนตรีก็ได้นำมาแถลงเป็นนโยบายต่อรัฐสภา และเป็นนโยบายที่สำคัญกับการพัฒนาประเทศทั้งต่อด้านสังคม เศรษฐกิจ และความมั่นคง โดยเฉพาะความมั่นคงด้านสุขภาพ ที่มีเป้าหมายให้ประชาชนทุกคนในประเทศมีสุขภาวะที่ดี สมบูรณ์พร้อมทั้งทางร่างกาย จิตใจ สติปัญญา และสังคม

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า การยกระดับนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรคเดิม มาเป็นนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ถือเป็นโอกาสจากการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลที่ทันสมัย ซึ่งเป็นสิ่งที่ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี พูดติดปากไว้ตลอดเมื่อตั้งแต่ 20 ปีก่อน เนื่องด้วยข้อจำกัดทางเทคโนโลยีทำให้ระบบต้องให้ประชาชนมาขึ้นทะเบียนรับการรักษาเฉพาะจุด เฉพาะแห่งที่ขึ้นทะเบียน ต้องมีระบบการส่งต่อ ที่ทำให้ประชาชนเกิดความยากลำบาก

1

"เราอยากทำตั้งแต่สมัยนั้น แต่ด้วยข้อจำกัดทางเทคโนโลยี เรายังทำไม่ได้ รวมถึงข้อจำกัดทางการเมือง ก็ทำให้เราไม่สามารถอยู่ดูแลประชาชนได้อย่างที่ต้องการ แต่เมื่อประชาชนยังให้โอกาสพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ก็ทำให้เรามีโอกาสกลับมาดูแลพี่น้องประชาชน และเป็นนโยบายสำคัญของ สธ. ที่เราถือว่าต้องเร่งรัดขับเคลื่อนให้แล้วเสร็จเห็นผลภายใน 100 วัน เพราะถือเป็นคำมั่นของรัฐบาลที่ให้ไว้กับประชาชน" นพ.ชลน่าน ระบุ

นพ.ชลน่าน ยังกล่าวด้วยว่า รัฐบาลชุดนี้มีความมุ่งมั่นในการวางยุทธศาสตร์ วางระบบสาธารณสุขรูปแบบใหม่ ที่ช่วยลดความเหลื่อมล้ำ เพิ่มการเข้าถึงบริการ ขณะเดียวกันก็ไม่ได้มุ่งเน้นเฉพาะการรักษาพยาบาลหรือฟื้นฟูสภาพเท่านั้น แต่ยังมุ่งเน้นในมิติของการส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรคด้วย โดยเฉพาะบริการสุขภาพในระดับปฐมภูมิ และต้องการทำให้บัตรประชาชนเหมือนกับบัตรประกันด้านสุขภาพของพี่น้องประชาชน ที่ไม่ต้องไปทำบัตรประกันสุขภาพ แต่สามารถถือบัตรประชาชนใบเดียวไปไหนก็เป็นหลักประกันได้

4

4

ขณะที่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า แม้กระบวนการขั้นตอนดำเนินงานต่างๆ จะได้รับทราบเนื้อหามาแล้วในการประชุมนโยบาย แต่ก็ยังไม่เคยได้เห็นของจริงจนถึงวันนี้ ซึ่งต้องขอชื่นชมบุคลากรเจ้าหน้าที่ทุกคนว่าสามารถทำได้อย่างดีมาก ทำให้ยอมรับและมีกำลังใจว่าเราจะสามารถช่วยอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในอีกหลายจังหวัดได้อีกมาก

น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เชื่อว่าทุกคนเคยใช้นโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค ซึ่งดำเนินมาตั้งแต่เมื่อ 22 ปีที่แล้ว จนวันนี้ถึงเวลาที่เราจะอัปเกรดให้ดีขึ้น เพิ่มความสะดวกสบายให้กับประชาชนมากขึ้น ตามเวลา ยุคสมัย และเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งวันนี้ดีใจที่ได้เห็นความก้าวหน้าของนโยบายนี้ และมั่นใจว่าช่วยทำให้ชีวิตของพี่น้องประชาชนดีขึ้นได้จริง

4

"ต้องขอบคุณการผลักดันนโยบายนี้เมื่อ 22 ปีที่แล้ว ซึ่งมีแรงผลักดันที่ชัดเจนจากท่านนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร จากพรรคไทยรักไทยในตอนนั้น ซึ่งสมัยนั้นเวลาพูดถึง 30 บาทแล้วไม่มีใครเชื่อ ตอนนั้นทุกคนบอกเป็นไปไม่ได้ มาวันนี้เราพิสูจน์แล้วว่าเป็นไปได้ และทำให้ชีวิตทุกคนดีขึ้นมาได้ตลอด 22 ปี มาถึงวันนี้รัฐบาลมีหน้าที่ทำให้ดีขึ้นไปอีก โดยนอกจากนโยบายนี้แล้วยังมีนโยบายอื่นๆ ที่พร้อมผลักดันให้ประชาชน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ Soft Power การเพิ่มตำแหน่งงาน นโยบายยาเสพติดที่ประชาชนรอคอย หรือการพัฒนาราคาสินค้าเกษตร ซึ่งแน่นอนว่าต้องขอขอบคุณประชาชนที่ทำให้เรามีโอกาสได้เข้ามาทำให้ชีวิตของพี่น้องประชาชนดีขึ้นอีกครั้ง" น.ส.แพรทองธาร ระบุ

4

ด้าน นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่นั้น ประชาชนยังสามารถเลือกรับบริการสาธารณสุขวิถีใหม่ได้ ที่เป็นนวัตกรรมช่วยเพิ่มความสะดวก ลดความแออัดในโรงพยาบาล สามารถใช้บัตรประชาชนรับบริการได้ทันทีที่หน่วยบริการเอกชนที่ขึ้นทะเบียนในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งประกอบด้วย ร้านยา คลินิกพยาบาลชุมชนอบอุ่น คลินิกเวชกรรมชุมชนอบอุ่น คลินิกทันตกรรมชุมชนอบอุ่น คลินิกการแพทย์แผนไทยชุมชนอบอุ่น คลินิกเทคนิคการแพทย์ชุมชนอบอุ่น ทั้งนี้สามารถตรวจสอบรายชื่อหน่วยบริการเอกชน 4 จังหวัดบัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ ได้ที่เว็บไซต์ สปสช. หรือที่ลิงก์ https://www.nhso.go.th/page/Innovative-services-4-provinces

นอกจากนั้น รมว.สาธารณสุขยังได้สั่งการให้ สปสช. จัดช่องทางพิเศษเพื่อบริการประชาชน โทร. 1330 เพื่อสอบถามข้อมูลนโยบาย 30 บาทอัปเกรด พร้อมกันนี้ได้แยกช่องทางสอบถามให้บริการข้อมูล ช่วยเหลือ สอบถามปัญหาการใช้สิทธิ ขั้นตอนการใช้บริการ เข้ารักษาที่ไหนได้บ้าง รายจังหวัดทั้ง 4 จังหวัดนำร่อง ดังนี้ จ.แพร่ โทร. 1330 กด 61, จ.ร้อยเอ็ด โทร. 1330 กด 67, จ.เพชรบุรี โทร. 1330 กด 65 และ จ.นราธิวาส โทร. 1330 กด 612