ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

‘ชลน่าน’ มอบนโยบายบุคลากรทั่วประเทศ ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง ยกระดับการดูแลสุขภาวะทุกมิติ ภายใต้ 30 บาทพลัส เพิ่มคุณภาพชีวิตทุกคนทุกกลุ่มผ่าน 13 ประเด็น พร้อมดัน 5 เรื่องเด่น สู่ Quick Win 100 วัน ทั้งโครงการพระราชดำริ-บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ 4 เขตสุขภาพ สร้าง Care D+ Team รพ.ทุกระดับ สร้าง รพ. 120 เตียงเขตดอนเมือง และมีสถานชีวาภิบาลจังหวัดละ 1 แห่ง 


วันที่ 22 ก.ย. 2566 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข (สธ.) พร้อมด้วย นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.สาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัด สธ. นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ที่ปรึกษา รมว.สธ. ได้ประชุมมอบนโยบายกระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. 2567 ภายใต้แนวคิด "พี่เล่าให้น้องฟัง รวมพลังแล้วไปต่อ" แก่ผู้บริหารระดับสูง สธ. จากส่วนกลางและส่วนภูมิภาค 13 เขตสุขภาพ จำนวน 500 คน รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขทั่วประเทศกว่า 5 แสนคน

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า สำหรับ Quick Win 100 วันที่จะเร่งรัดให้เห็นผลลัพธ์โดยเร็วมี 5 เรื่อง คือ 1.โครงการพระราชดำริ โดยคัดกรองมะเร็งในผู้ต้องขังทุกคน พัฒนาโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช และโรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติ เป็นโรงพยาบาลอัจฉริยะต้นแบบ และสุขศาลาพระราชทานผ่านการรับรองคุณภาพทุกแห่ง 

รวมทั้งขับเคลื่อนโครงการเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไตรมาส 2 ทั้งแว่นตาผู้สุงอายุ 7.2 หมื่นอัน ผ่าตัดต้อกระจก 7,200 ดวง ฟันเทียม 7.2 หมื่น คน ออกหน่วยพื้นที่ห่างไกล 720 อำเภอ ดูแลสุขภาพพระภิกษุสงฆ์ 7.2 หมื่นรูป และอาคารผู้ป่วยนอกเขตเมืองเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา 72 แห่ง 

2. ดิจิทัลสุขภาพ บัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ทุกที่ นำร่อง 4 เขตสุขภาพ 3. สร้างขวัญและกำลังใจบุคลากร โดยมี Care D+ Team ในหน่วยบริการทุกระดับ 4. โรงพยาบาล กทม. 50 เขต 50 โรงพยาบาลและปริมณฑล โดยจัดตั้ง โรงพยาบาล 120 เตียงในเขตดอนเมือง และ 5. สถานชีวาภิบาล จัดตั้งจังหวัดละ 1 แห่ง Hospital at Home จังหวัดละ 1 แห่ง และคลินิกผู้สูงอายุทุกโรงพยาบาล 

นพ.ชลน่าน กล่าวต่อไปว่าว่า สธ. มีภารกิจดูแลสุขภาพคนไทยทั้งประเทศให้แข็งแรง เป็นพื้นฐานสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและประเทศ จากนี้ขอให้ร่วมมือกันยกระดับ 30 บาทพลัสให้พัฒนาอย่างก้าวกระโดด ต้องพร้อมรับมือความท้าทายจากสถานการณ์ที่มีความไม่แน่นอนสูง เช่น สังคมสูงวัยแบบสมบูรณ์ อัตราการเกิดที่ลดลง ขาดแคลนแรงงานในอนาคต ภาวะโลกร้อนสู่ยุคโลกเดือด ฝุ่น PM 2.5 ภัยคุกคามทางไซเบอร์ เป็นอาทิ ด้วยการรวมพลังเพื่อฟื้นฟู เปลี่ยนวิกฤตไปสู่โอกาส 

ทั้งนี้ การขับเคลื่อนสาธารณสุขไทยต่อจากนี้ จะเป็นสาธารณสุขยุคใหม่ โดยจะปรับระบบบริการสุขภาพให้ประชาชนเป็นศูนย์กลาง ต่อยอดเศรษฐกิจไทย เติมเต็มบริการสุขภาพเพื่อประชาชน ยกระดับการดูแลสุขภาวะที่ดีทั้งกาย ใจ ปัญญา สังคม เชื่อมกันทุกมิติ ส่งเสริมสุขภาพ ป้องกัน ควบคุม รักษา และฟื้นฟู ด้วยนโยบาย 30 บาทพลัส เพิ่มคุณภาพชีวิตประชาชนทุกคน ทุกกลุ่ม ทุกพื้นที่ 

ผ่าน 13 ประเด็นสำคัญ ของนโยบาย 30 บาท พลัส ประกอบด้วย 1. โครงการพระราชดำริทางด้านสาธารณสุข 2. เพิ่มการเข้าถึงบริการในเขตเมือง โรงพยาบาล กทม. 50 เขต 50 โรงพยาบาล และปริมณฑล ทั้งการบริหารเตียง ใช้ทรัพยากรร่วมกันทุกภาคส่วน ใช้รูปแบบรัฐร่วมเอกชน จัดตั้งโรงพยาบาลแห่งใหม่เพื่อเพิ่มการเข้าถึงบริการในเขตเมือง 3. สุขภาพจิต/ยาเสพติด มีแผนกจิตเวช มีหอผู้ป่วยจิตเวชที่พร้อมให้บริการ มีศูนย์ธัญญารักษ์ทุกจังหวัด ให้บริการปรึกษาจิตแพทย์และนักจิตวิทยาผ่านทางระบบเทเลเมดิซีน 

4. มะเร็งครบวงจร คัดกรองรักษาอย่างรวดเร็ว ดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย โดยคัดกรองมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านมในเพศหญิง และมะเร็งท่อน้ำดี ตับ ปอดในเพศชาย ลดภาระค่าใช้จ่ายด้วยการจัดตั้งกองทุนมะเร็ง และจัดตั้งทีมเชิงรุก CA Warrior เพื่อลดป่วยลดตาย สร้างคุณภาพชีวิตที่ดี 5. สร้างขวัญกำลังใจบุคลากร อันถือเป็นภารกิจสำคัญต่อการสร้างความมั่นคงของระบบสุขภาพ โดยสนับสนุนบุคลากรทุกคนทุกระดับ ให้มีความก้าวหน้า มั่นคง อยู่ในสังคมอย่างมีเกียรติมีศักดิ์ศรี 

6. การแพทย์ปฐมภูมิ เพิ่มความครอบคลุมการดูแลที่บ้านและชุมชน พัฒนาระบบนัดหมายพบแพทย์ ตรวจเลือด รับยาในหน่วยบริการใกล้บ้าน เสริมสร้างอนามัยโรงเรียนให้เข้มแข็ง และพัฒนาระบบการแพทย์ทางไกล 7. สาธารณสุขชายแดน พื้นที่เฉพาะ และกลุ่มเปราะบาง จะเพิ่มการเข้าถึงบริการที่มีคุณภาพมาตรฐาน ทั้ง 3 จังหวัดชายแดนใต้ พื้นที่ชายแดนชายขอบ พื้นที่เฉพาะ รวมถึงกลุ่มชาติพันธุ์ มอร์แกน กลุ่มไร้รัฐ และกลุ่มเปราะบาง ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เพราะเป็นคนไทยเหมือนกัน 

8. สถานชีวาภิบาล พัฒนาระบบดูแลผู้ป่วยติดเตียงและผู้ป่วยระยะสุดท้าย ดูแลผู้ป่วยที่บ้าน (Home Ward) จนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต รองรับสังคมผู้สูงอายุและลดภาระบุตรหลาน 9. พัฒนา โรงพยาบาลชุมชนแม่ข่าย มีระบบส่งต่อแบบไร้รอยต่อ เพิ่มศักยภาพการตรวจวินิจฉัยและรักษาทั้ง CT Scan/ICU จัดให้มี Mobile Stroke Unit เพื่อลดการส่งต่อ 10. ดิจิทัลสุขภาพ ใช้บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ และพัฒนาเป็น รพ.อัจฉริยะ One ID Card Smart Hospital ให้บริการสุขภาพยุคใหม่ ตรงความต้องการของประชาชน เข้าถึงได้ง่าย 

11. ส่งเสริมการมีบุตร โดยผลักดันเป็นวาระแห่งชาติ เพิ่มอัตราการเกิดของเด็กที่มีคุณภาพ สร้างความเข้าใจการมีบุตรเมื่อพร้อม สอดคล้องเหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจและสังคม “มีลูก มีแต่ได้” 12. เศรษฐกิจสุขภาพ สร้างต้นแบบพื้นที่อายุยืน (Blue Zone) “หนึ่งเขตสุขภาพ หนึ่งพื้นที่อายุยืน” ในทุกจังหวัด พัฒนาสู่ศูนย์กลางการแพทย์มูลค่าสูง ดูแลสุขภาพครบวงจร 

รวมถึงต่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์สุขภาพขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และ 13. นักท่องเที่ยวปลอดภัย ยกระดับความปลอดภัยด้านอาหาร สถานที่ ผู้ให้บริการ ระบบเฝ้าระวังและควบคุมโรคให้ทันสมัย ทันเวลา และง่ายต่อการจัดการสถานการณ์ฉุกเฉินกรณีเกิดโรคระบาด เพิ่มบริการการแพทย์ฉุกเฉินสำหรับดูแลผู้ป่วยวิกฤตอย่างครอบคลุม เป็นหลักประกันความปลอดภัย ให้ประชาชนคนไทยและนักท่องเที่ยว