ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สัปดาห์หน้าคิกออฟทั่วประเทศ แคมเปญรณรงค์หญิงไทยวัย 11-20 ปี ฉีดวัคซีน HPV ป้องกันมะเร็งปากมดลูก เริ่มปูพรมฉีดในกลุ่มเด็กนักเรียนตั้งแต่ ป.5 ถึงมหาวิทยาลัยปีที่ 2 ส่วนผู้ที่ไม่ได้อยู่ในระบบโรงเรียนสามารถลงทะเบียนจองได้ที่ สสจ.


นพ.วิชาญ บุญกิติกร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวในรายการ “Disease Review รีวิวโรค” ทางช่อง Facebook Live ของ คร. ว่า โรคมะเร็งปากมดลูกถึงเป็นปัญหาค่อนข้างใหญ่ จากสถานการณ์ระดับโลกในปัจจุบันทุกๆ 3 นาทีจะมีผู้หญิงเสียชีวิตจากมะเร็งปากมดลูก 1 คน ส่วนในไทย มีผู้หญิงเสียชีวิตจากโรคดังกล่าวปีละ 4,000-5,000 ราย 

นพ.วิชาญ กล่าวต่อไปว่า โรคดังกล่าว มีสาเหตุจากการติดเชื้อไวรัส HPV ผ่านการมีเพศสัมพันธ์ อย่างไรก็ดี ก็เป็นโรคที่สามารถป้องกันได้ และสามารถรักษาให้หายได้หากตรวจเจอในระยะเริ่มต้น แต่ถ้าละเลยก็จะมีผลให้เซลมะเร็งกระจายไปที่อวัยวะอื่นๆ จนรักษายาก อีกทั้งมีความทุกข์ทรมาน กระทบต่อคุณภาพชีวิต ดังนั้น ควรหมั่นตรวจคัดกรองเพื่อให้สามารถตรวจเจอและรักษาได้ตั้งแต่เนิ่นๆ

ทั้งนี้ สธ. คร. ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เห็นความสำคัญของปัญหานี้และจัดแคมเปญรณรงค์ทั่วประเทศเพื่อกระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมายที่เป็นหญิงไทย อายุ 11-20 ปี ที่ไม่เคยได้รับวัคซีน สามารถมารับการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัส HPV ซึ่งเป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูก โดยตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป จะเริ่มแคมเปญและทยอยฉีดให้เด็กตั้งแต่ชั้น ป.5 - ม.6 ไปจนถึงนักศึกษามหาวิทยาลัยชั้นปีที่ 1-2 ซึ่งขณะนี้ในหลายพื้นที่ได้เตรียมวัคซีนและเริ่มนัดหมายวันเวลาในการให้บริการแล้ว ซึ่งเมื่อฉีดแล้วจะมีผลป้องกันได้นาน 10-20 ปีเลยทีเดียว

ขณะเดียวกัน ในส่วนของผู้ที่ไม่ได้อยู่ในโรงเรียน สามารถติดต่อสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเพื่อลงทะเบียนไว้ก่อน จากนั้นฉีดให้เด็กนักเรียนเสร็จแล้วก็จะเรียกกลุ่มที่ยังตกหล่นมารับการฉีดต่อไป ซึ่งคาดว่าน่าจะรอไม่นาน ช่วงเดือน ธ.ค. 2566นี้ ก็น่าจะได้รับวัคซีนหมดแล้ว

นพ.วิชาญ กล่าวทิ้งท้ายว่า การฉีดวัคซีนป้องกันไวรัส HVP จะเน้นความสมัครใจ ไม่มีการบังคับ แต่ขอแนะนำให้ฉีดเพื่อประโยชน์ของเด็กในอนาคต  อีกทั้ง สตรีที่อายุ 30 ปีขึ้นไป ก็ควรหมั่นตรวจสุขภาพ หากตรวจพบเร็วก็สามารถรักษาให้หายได้