ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

“อนุทิน” มอบนโยบายและชี้แจงแนวทางการควบคุม กำกับการใช้กัญชาอย่างเหมาะสม-ปลอดภัยต่อสุขภาพ ต้องเร่งสร้างความเข้าใจให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง พร้อมวางระบบกำกับ ติดตาม และการเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง 


​นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยในฐานะประธานการประชุมมอบนโยบายและชี้แจงแนวทางการควบคุม กำกับการใช้กัญชาอย่างเหมาะสมและปลอดภัยต่อสุขภาพ ตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องว่า สธ. มีนโยบายการใช้ประโยชน์จากกัญชาทางการแพทย์ สร้างเศรษฐกิจ สร้างสุขภาพและพัฒนาระบบบริการสุขภาพให้เข้มแข็ง หลังจากเดือน ก.พ. 2562 ที่มีการประกาศใช้ พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2562 อนุญาตให้ใช้กัญชาเสรีเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ 

1

อย่างไรก็ดี หน่วยงานต่างๆ ของ สธ. เริ่มมีการจัดอบรม ทำการศึกษา วิจัย การใช้ส่วนประกอบของพืช และสารสกัดจากกัญชาเพื่อใช้ในทางการแพทย์อย่างเป็นระบบ พร้อมทั้งผลักดันให้การใช้กัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ และส่งเสริมเศรษฐกิจทำได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยในเดือน ก.พ. 2565 มีการออกประกาศ สธ. เรื่อง ระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 พ.ศ. 2565 ปลดล็อคกัญชา กัญชงออกจากบัญชียาเสพติดให้โทษ คงเหลือการควบคุมสารสกัดที่มี THC เกินกว่าร้อยละ 0.2 โดยน้ำหนักและสารสกัดที่นำเข้าจากต่างประเทศ จนประกาศนี้มีผลให้บังคับใช้ เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. ที่ผ่านมา                    

นายอนุทิน กล่าวว่า เนื่องจากกัญชามีทั้งประโยชน์ และข้อควรระวังในการนำมาใช้ โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและเยาวชน ซึ่งเราสามารถช่วยกันให้ความรู้ ดูแล และป้องกันการนำมาใช้ในทางไม่พึงประสงค์ได้ โดยความร่วมมือของเจ้าหน้าที่และเครือข่ายทางสังคม เพราะประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับจากการปลดล็อคกัญชาจากการเป็นยาเสพติด มีทั้งมิติทางเศรษฐกิจ การแพทย์ การดูแลรักษาตัวเองของประชาชน ในขณะที่ร่างพระราชบัญญัติกัญชา กัญชง พ.ศ.... อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร 

2

นอกจากนี้ สธ. ได้พิจารณาแล้วว่ากฎหมายที่มีอยู่ เช่น พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ที่ให้อำนาจองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการใช้กฎหมาย เพื่อคุ้มครองประชาชนด้านสุขลักษณะ และการอนามัยสิ่งแวดล้อมในสถานที่หรือกิจการร้านค้าใดๆ ที่ระบุไว้ตามกฎหมายนี้ ซึ่ง สธ. ได้ออกประกาศเรื่อง กำหนดให้การกระทำให้เกิดกลิ่น หรือควันกัญชา กัญชง หรือพืชอื่นใด เป็นเหตุรำคาญ พ.ศ. 2565 โดยได้ประกาศราชกิจจานุเบกษา มีผลบังคับใช้ วันที่ 15 มิ.ย. 2565 และ สธ.ในฐานะประธานคณะกรรมการสาธารณสุข ได้ออกคำแนะนำของคณะกรรมการสาธารณสุข เรื่อง แนวทางควบคุมเหตุรำคาญจากการกระทำให้เกิดกลิ่น หรือควันกัญชา กัญชง หรือพืชอื่นใด พ.ศ. 2565 เพื่อเป็นคำแนะนำสำหรับเจ้าพนักงานท้องถิ่นในการใช้อำนาจตามกฎหมายสาธารณสุข 

ขณะเดียวกัน กรมอนามัย โดยอธิบดีกรมอนามัย ได้ออกประกาศกรมอนามัย เรื่อง การนำใบกัญชามาใช้ ในการทำ ประกอบ หรือปรุงอาหาร ในสถานประกอบกิจการอาหาร พ.ศ. 2565 ซึ่งมาตรการต่างๆ ที่กำหนดขึ้นนี้จะเป็นเครื่องมือให้กับเจ้าพนักงานตามกฎหมายสาธารณสุข ทั้งคณะกรรมการสาธารณสุขจังหวัด คณะกรรมการสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใช้ในการควบคุม ป้องกัน และแก้ไขผลกระทบต่างๆ ที่อาจจะเกิดจากการใช้กัญชาที่ไม่เหมาะสม            

4           

นายอนุทิน กล่าวต่อไปว่า กฎหมายและแนวทางปฏิบัติต่างๆ ที่ออกมานี้ สามารถนำมาเป็นเครื่องมือป้องกันการนำกัญชาไปใช้ในทางที่ไม่เหมาะสมได้ โดยต้องใช้บนฐานความเข้าใจ และให้สอดคล้องกับระบอบประชาธิปไตยที่คำนึงถึงเสรีภาพควบคู่กับการ รักษาสิทธิของประชาชน การใช้สิทธิของคนหนึ่งก็ต้องไม่กระทบสิทธิของคนอื่นๆ หรือไม่กระทบประโยชน์สาธารณะด้วย     ความท้าทายของเรื่องนี้ คือการหาสมดุลระหว่างการใช้ประโยชน์กัญชา และการป้องกันการกระทำที่ไม่พึงประสงค์ 

“สิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการ คือสร้างความเข้าใจให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง พร้อมวางระบบกำกับ ติดตาม และการเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนร่วมมือกันนำมาตรการต่างๆ ที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ไปดำเนินการป้องกันผลกระทบจากการใช้กัญชา และเร่งสร้างความรู้ ความเข้าใจในการใช้กัญชาที่ถูกต้อง เหมาะสม ให้กับประชาชนต่อไป” นายอนุทิน ระบุ