รองปลัดสาธารณสุข อธิบายหลักการ หากถ่ายโอน รพ.สต. ไปยังท้องถิ่นแล้ว ก็จะไม่ได้สิทธิ ‘บรรจุข้าราชการ’ รอบใหม่

“นพ.สุระ” แจง การบรรจุข้าราชการโควิด-19 รอบใหม่ 3.7 หมื่นอัตรา เป็นของกระทรวงสาธารณสุข หากมีการถ่ายโอน รพ.สต. ไปอยู่ภายใต้กระทรวงมหาดไทยแล้ว ก็จะไม่ได้สิทธิบรรจุ

นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยกับ "The Coverage" ถึงกรณีการเสนอขอบรรจุข้าราชการโควิด-19 รอบ 2 จำนวน 3.7 หมื่นอัตรา ซึ่งอยู่ระหว่างการเสนอให้ รมว.สธ. พิจารณา ก่อนจะเสนอให้สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ให้ความเห็นชอบ ตอนหนึ่งว่า หากได้อัตรามาแล้ว ก็จะบรรจุบุคลากรในส่วนของ สธ.

นพ.สุระ กล่าวว่า หากเป็นบุคลากรในกรณีที่มีการถ่ายโอนภารกิจโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ซึ่งเท่ากับไปอยู่ภายใต้กระทรวงมหาดไทย (มท.) ซึ่งโดยหลักการแล้ว ก็จะไม่ได้รับการบรรจุในส่วนนี้

"โดยหลักแล้ว เราขอไปเพื่อมาบรรจุคนของ สธ. ดังนั้นจะนำไปบรรจุกระทรวงอื่นไม่ได้ ฉะนั้นถ้า สธ.ได้รับอัตราเหล่านี้มา แต่เขาโอนไปอยู่กับ มท. แล้ว เราก็ไม่สามารถตามไปบรรจุให้เขาได้ อันนี้เป็นหลักการทั่วไป ส่วนรายละเอียดอาจจะมีข้อสังเกตปลีกย่อยอะไรตามมาก็ว่าไป" นพ.สุระ ระบุ

นพ.สุระ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามการเสนอขอบรรจุข้าราชการดังกล่าว เพิ่งผ่านขั้นตอนของ อ.ก.พ.กระทรวงสาธารณสุข ยังเหลือขั้นตอนที่จะเสนอขึ้นไปเพื่อพิจารณา โดยเหลือการส่งรายละเอียด ดูชื่อ ดูคุณสมบัติต่างๆ ว่าจะขอเท่าไร คำนวณเม็ดเงินเป็นเท่าไร ฯลฯ

ฉะนั้นในส่วนของการถ่ายโอนระหว่างนี้ หาก รพ.สต. ใดยินดีที่จะไป ทาง สธ.ก็ไม่ได้ห้าม เพราะเป็นไปตามกฎหมายอยู่แล้ว ขึ้นกับว่าประสงค์จะไปหรือไม่เท่านั้น เพราะก็มีคนบางส่วนที่ไม่อยากไปอยู่กับท้องถิ่น แต่ก็ขอมาอยู่ที่ สธ. เหมือนเดิม โดย สธ.ก็จะตัดหน่วยงาน ตัดงาน ตัดคนส่วนที่อยากไปให้กับท้องถิ่น