ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กรมควบคุมโรค ชวนโรงงานทั่วไทยทำบับเบิลแอนด์ซีลแบบป้องกันโรคโควิด-19 ลดโอกาสเกิดโรคระบาดทั้งโรงงานได้  


นพ.อภิชาต วชิรพันธ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยเมื่อวันที่ 9 ก.ย. 2564 ตอนหนึ่งว่า ขณะนี้ประเทศไทยอยู่ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 สถานประกอบกิจการและโรงงานหลายแห่งได้รับผลกระทบ กรมควบคุมโรค จึงนำมาตรการบับเบิลแอนด์ซีล (Bubble and Seal) มาใช้ควบคุมโรคโควิด-19 ในโรงงาน

ทั้งนี้แบ่งออกแบบ 2 ระบบ คือระบบการควบคุมโรค ซึ่งใช้ในพื้นที่ความคุมสูงสุดและเข้มงวด เช่น จ.สมุทรสาคร ในช่วงเดือนมกราคม 2564 แต่ละแห่งมีพนักงานจำนวนมาก โดยทำการคัดแยกผู้ติดเชื้อ มาแยกกักรักษาตัวที่ รพ.สนาม หรือสถานที่แยกกักอื่นๆ ส่วนพนักงานในโรงงานที่สัมผัสโรคแต่ไม่ป่วย ให้โรงงานจัดที่พักในโรงงานแยกจากครอบครัว ชุมชนและให้สามารถทำงานได้ พบว่าสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ในช่วงสั้นๆ ประมาณ 4 สัปดาห์ จึงได้พัฒนามาสู่ “ระบบบับเบิลแอนด์ซีลเพื่อป้องกันโรคในโรงงาน” ที่ยังไม่มีการระบาด ซึ่งมีมากกว่าโรงงานที่มีผู้ติดเชื้อ

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ดำเนินการในโรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่งในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ผลพบว่าแทบไม่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เลย หรือมีก็น้อยมากและสามารถควบคุมได้เร็ว ทั้งแรงงานและโรงงานไม่ต้องหยุดการผลิต พนักงานยังมีรายได้ปกติ โรงงานสามารถผลิตได้เต็มศักยภาพ ไม่กระทบกับเศรษฐกิจของประเทศ

“อยากเชิญชวนให้โรงงานอุตสาหกรรมทุกแห่งไม่ว่าจะขนาดเล็กหรือใหญ่ ให้จัดทำแผนทำบับเบิลแอนด์ซีล เพื่อการป้องกันโรค โดยแบ่งกลุ่มพนักงานที่ไลน์การผลิตเดียวกันออกเป็นกลุ่มย่อยๆ (small bubble) ไม่ปะปนกัน เพื่อจำกัดการแพร่เชื้อระหว่างกลุ่ม เนื่องจากจะตรวจสอบและควบคุมได้ จะลดการเกิดโรคโควิด-19 ระบาดทั้งโรงงาน ไม่ส่งผลกระทบต่อกำลังการผลิตของโรงงาน” นพ.อภิชาต กล่าว

นพ.อภิชาต กล่าวต่อไปว่า ทุกโรงงานต้องมีการสุ่มตรวจการติดเชื้อพนักงานด้วยชุดเอทีเค (Antigen  Test Kit : ATK) เพื่อเฝ้าระวังอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้งหรือมากกว่า แรงงานที่ไม่พบการติดเชื้อก็สามารถผลิตต่อไปได้ไม่ต้องหยุด การที่โรงงานได้ทำบับเบิลฯ เพื่อการป้องกันโรคไว้ จะเสมือนว่าเป็นการสร้างกำแพงป้องกันเชื้อโรคจากภายนอก ป้องกันการระบาดเข้าสู่ภายในโรงงาน ในส่วนพนักงานทุกคนต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันตัวเอง คือ ใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา ล้างมือ เว้นระยะห่าง ลดการปฏิสัมพันธ์ใกล้ชิดกัน ไม่เข้ากลุ่มที่มีคนจำนวนมาก เป็นต้น

ทั้งนี้ กรมควบคุมโรคได้จัดเตรียมระบบที่ปรึกษา (Coaching system) ซึ่งบูรณาการทำงานร่วมระหว่างกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงแรงงาน กระทรวงมหาดไทย มี 3 ระดับ คือส่วนกลาง ระดับเขต และระดับจังหวัด เพื่อให้คำแนะนำด้านเทคนิคความรู้ต่างๆ ให้คำปรึกษาการจัดทำระบบต่างๆ ตลอดจนข้อแนะนำต่างๆ แก่ผู้ประกอบการโรงงาน รวมทั้งการลงพื้นที่เพื่อติดตาม ประเมิน กำกับการดำเนินงาน  

นอกจากนี้ กรมควบคุมโรคได้จัดทำคู่มือองค์ความรู้ต่างๆเกี่ยวกับการทำบับเบิลแอนด์ซีลรวมทั้งกรณีตัวอย่างเผยแพร่ในเว็บไซต์ของกรมฯ www.ddc.moph.go.th เพื่อให้ผู้ประกอบการใช้เป็นแนวทางดำเนินงาน