ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สปสช.ประชุมหน่วยบริการใน กทม. เตรียมความพร้อมดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่บ้าน "Home Isolation" ด้าน สธ. ตั้งศูนย์ประสานงาน CCR Team หนุนดูแลผู้ป่วยที่บ้าน-ลงพื้นที่แก้ปัญหาหน้างาน


สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) จัดการประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมด้านสารสนเทศการดูแลผู้ป่วยที่บ้าน (Home Isolation) ของหน่วยบริการในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) สำหรับบันทึกเบิกจ่ายชดเชยค่าบริการและระบบส่งต่อผู้ป่วยในชุมชน ผ่านระบบ Zoom Meeting เมื่อวันที่ 14 ก.ค. 2564 โดยมีตัวแทนหน่วยบริการปฐมภูมิในพื้นที่ กทม. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมกว่า 490 ราย

นพ.โกเมนทร์ ทิวทอง รองผู้อำนวยการสำนักงานสนับสนุนระบบปฐมภูมิและคลินิกหมอครอบครัว สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า สธ.จะเป็นหน่วยงานเสริมที่ช่วยให้หน่วยบริการปฐมภูมิ หรือคลินิกชุมชนอบอุ่น ทำการดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่บ้านหรือที่ชุมชน (Home/Community Isolation) ให้ได้ดีที่สุด โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นหน่วยบริการปฐมภูมิ 178 ทีม ที่ขึ้นทะเบียนตาม พ.ร.บ.ระบบสุขภาพปฐมภูมิ

นอกจากนี้ยังมีคลินิกชุมชนอบอุ่นที่ขึ้นทะเบียนกับ สปสช. รวมถึง CCR team ของ สธ. จำนวน 10 ทีม ซึ่งทำหน้าที่เหมือนหน่วยเคลื่อนที่เร็วลงไปช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ โดยแต่ละทีมจะมี 8-10 คน ประกอบด้วย 1. ทีมคลินิก แพทย์ พยาบาล นักวิชาการสาธารณสุข 2. เครือข่ายภาคประชาชนหรืออาสาสมัครสาธารณสุข (อสส.) ในพื้นที่ที่จะช่วยติดตามการดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่บ้านหรือที่ชุมชนของผู้ป่วย 3. เจ้าหน้าที่เขตของ กทม. หรือทหาร เพื่อประสานในการลงพื้นที่

นพ.โกเมทร์ กล่าวว่า ขั้นตอนการดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่บ้านหรือที่ชุมชน จะยึดแนวทางของกรมการแพทย์ และ สปสช.เป็นหลัก คือผู้ป่วยจะได้รับหน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว และปรอทวัดไข้แบบดิจิทัล สำหรับกักตัวที่บ้าน 14 วัน พร้อมอาหารวันละ 3 มื้อ โดยแพทย์จะวิดีโอคอลติดตามอาการผ่านโปรแกรม AMED Telehealth ซึ่งเป็นระบบบริการทางการแพทย์ทางไกลของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) 

"ส่วนหน่วยบริการเองก็จะได้รับการสนับสนุนถังออกซิเจน ยาฟาวิพิราเวียร์ ยาฟ้าทะลายโจร เครื่องวัดความดัน อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล ถุงมืออนามัย หน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ และชุดตรวจหาเชื้อแบบ Antigen Test Kit เพื่อใช้ในการดูแลผู้ป่วยที่บ้านอีกทางหนึ่ง โดย สธ.ได้ตั้งศูนย์ประสานงาน CCR Team เพื่อช่วยประกอบทีมในพื้นที่รับผิดชอบ ประสานติดต่อสนับสนุนยา เวชภัณฑ์ การลงพื้นที่แก้ไขปัญหาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งรับเคสบางส่วนแล้วส่งให้ 1330 เป็นหลัก" นพ.โกเมทร์ กล่าว

ด้าน ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า ในส่วนของอาหารสำหรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่รับการดูแลที่บ้านหรือที่ชุมชน สปสช.ได้สนับสนุนงบประมาณค่าอาหารและค่าบริหารจัดการให้แก่โรงพยาบาลที่ดูแลผู้ป่วย โดยโรงพยาบาลมีหลายทางเลือกในการจัดการ เช่น ให้โรงครัวประกอบอาหารแล้วใช้รถโรงพยาบาลหรือรถของเครือข่ายไปส่งให้ผู้ป่วย หรืออาจใช้บริการบริษัทส่งอาหารก็ได้

ทั้งนี้ สปสช.ได้ติดต่อทั้งบริษัทผู้ผลิตอาหารรายใหญ่ บริษัทที่ขนส่งอาหารอย่างเดียว หรือบริษัทที่ทั้งผลิตและขนส่งอาหาร รวมทั้งแพล็ตฟอร์มต่างๆที่โรงพยาบาลสามารถเป็นแอดมินแล้วมอบหมายบริษัทส่งอาหารไปส่งงานตามบ้านก็ได้ หรือจะให้ผู้ป่วยที่อยู่ที่บ้านสั่งอาหารเองตามวงเงินที่กำหนดไว้ก็ได้ โดยจะรวบรวมข้อมูลการติดต่อแต่ละบริษัทแล้วหากหน่วยบริการไหนสนใจจัดการในรูปแบบไหนก็สามารถไปหารือกันในรายละเอียดอีกครั้ง