ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สธ.-สปสช.-เทคนิคการแพทย์ ม.มหิดล เร่งระดมใช้ชุดตรวจ Antigen Test Kit (ATK) ค้นหาผู้ติดเชื้อโควิด-19 เชิงรุกช่วง 14 วัน พร้อมส่งต่อผู้ป่วยให้คลินิกชุมชนอบอุ่น ดูแลที่บ้าน-ชุมชน


นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยผ่านรายการ NBT รวมใจสู้ภัยโควิด@ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 12 ก.ค. 2564 ระบุว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) มีนโยบายชัดเจนให้ใช้การตรวจแบบ Antigen Test Kit (ATK) ซึ่งจะรู้ผลเร็วกว่าการตรวจแบบ RT-PCR เนื่องจากมีความต้องการตรวจหาเชื้อโควิด-19 จำนวนมาก แต่บริการตรวจมีไม่เพียงพอ

ทั้งนี้ สปสช.ได้ร่วมมือกับ สถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง กรมควบคุมโรค สธ. และคณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล จัดบริการตรวจคัดกรองเชิงรุกตามพื้นที่ต่างๆ ในกรุงเทพมหานคร (กทม.) และปริมณฑล ซึ่งหากว่าผลตรวจเป็นบวกและอาการไม่รุนแรงก็จะให้ดูแลที่บ้าน (Home isolation) หรือที่ชุมชน (Community Isolation) ภายใต้การดูแลของแพทย์ประจำครอบครัวหรือแพทย์ที่อยู่ในระบบปฐมภูมิ ในคลินิกชุมชนอบอุ่นหรือศูนย์บริการสาธารณของ กทม. ซึ่งรูปแบบนี้ใช้เฉพาะในพื้นที่ กทม.เท่านั้น

นพ.จเด็จ กล่าวว่า การให้ผู้ป่วยที่อาการไม่รุนแรงดูแลที่บ้าน ก็เพื่อเก็บเตียงในโรงพยาบาลให้กลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้สูงอายุเกิน 60 ปี ผู้ที่มีโรคอ้วน มีโรคประจำตัวเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง เป็นต้น เพราะคนกลุ่มนี้มีอัตราการเสียชีวิตสูง ส่วนผู้ที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มเสี่ยงก็ให้ดูแลอยู่ในบ้านไม่ออกไปไหน มีอาหารให้วันละ 3 มื้อ

พร้อมกันนี้ ทางคลินิกชุมชนอบอุ่นจะมีเครื่องวัดอุณหภูมิ เครื่องวัดออกซิเจน มีแพทย์วิดีโอคอลติดตามอาการวันละ 2 ครั้งเหมือนอยู่ในโรงพยาบาล เวลาทำวิดีโอคอลก็จะดูว่าอุณหภูมิร่างกายเท่าไร ระดับออกซิเจนในเลือดเท่าไร ถ้าออกซิเจนในเลือดลดลงถึงในระดับอันตรายก็จะมีรถพยาบาลไปรับตัวมาเอกซเรย์ปอด ถ้าเป็นปอดบวมก็อาจจะต้องย้ายเข้ามารักษาในโรงพยาบาล

นอกจากนี้ ในเรื่องของยาก็จะจ่ายยาให้เร็วขึ้นเพราะเชื่อว่าการจ่ายยาทันทีจะสามารถลดการเปลี่ยนแปลงอาการจากสีเขียวไปเป็นสีเหลืองไปได้มาก แต่ถ้าเป็นกลุ่มเสี่ยง แม้ว่าอาการจะไม่รุนแรงก็จะให้ไปนอนโรงพยาบาลทันที

"ตอนนี้เรามีคลินิกชุมชนอบอุ่นประมาณกว่า 200 แห่งใน กทม. ก็ใช้กลไกตรงนี้ก่อน แล้วถ้าหากมีจำนวนผู้ป่วยมากขึ้นอาจจะใช้คลินิกที่มีอยู่ที่ไม่ใช่คลินิกชุมชนอบอุ่นด้วยก็ได้ เพราะว่าใน กทม.มีคลินิกทั่วไปในประมาณ 5,000 แห่ง" นพ.จเด็จ กล่าว

นพ.จเด็จ กล่าวอีกว่า ในส่วนของผู้ที่ตรวจแล้วผลเป็นบวกแล้วอยากเดินทางกลับไปรักษาในภูมิลำเนา สามารถโทรมาสายด่วน 1330 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทาง สปสช.จะมีรถบัสเตรียมไว้ส่งตัวผู้ป่วยทั่วประเทศและช่วยประสานโรงพยาบาลปลายทางให้ รวมทั้งไม่แนะนำให้เดินทางโดยรถสาธารณะไปเองเพราะเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ ดังนั้น ถ้าไม่มีค่าใช้จ่ายในการเดินทางสามารถโทรมา 1330 ได้เลย

"วันนี้เริ่มต้นการบังคับใช้มาตรการลดการเดินทาง เป็นโอกาสดีที่ต้องรีบค้นหาผู้ติดเชื้อจำนวนมากๆ ออกมา เมื่อพบผู้ติดเชื้อแล้วก็จะเกิดการดูแลอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด หากทำได้ดีเชื่อว่าการแพร่ระบาดก็น่าจะมีสัญญาณลดลง ขณะเดียวกัน สำหรับผู้ที่ตรวจแล้วผลเป็นลบหรือไม่ติดเชื้อก็ยังแนะนำให้กักตัวที่บ้านเป็นเวลา 14 วัน เพราะในตอนตรวจอาจยังมีเชื้อในร่างกายไม่มากพอให้ชุดตรวจตรวจจับได้ ถ้าทุกคนทำแบบนี้ 14 วันผ่านไป อุบัติการณ์การติดเชื้อก็น่าจะลดลง" นพ.จเด็จ กล่าว