ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สธ.เร่งตรวจสอบมาตรฐานคลินิก "แล็บตรวจโควิด" ใน กทม.ทุกแห่ง ย้ำเมื่อพบติดเชื้อต้องแจ้งกรมควบคุมโรคภายใน 3 ชั่วโมง พร้อมรายงานข้อมูลเข้า "โคแล็บ" ช่วยบริหารจัดการได้ทันสถานการณ์


นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข เปิดเผยในการประชุมทำความเข้าใจกับห้องปฏิบัติการเครือข่ายตรวจเชื้อโควิด-19 ถึงแนวทางและมาตรฐานการตรวจ และการรายงานข้อมูล โดยระบุว่า ที่ผ่านมาได้มีข้อตกลงร่วมกันว่าเมื่อตรวจพบผู้ติดเชื้อ ทางแล็บจะต้องรายงานกรมควบคุมโรคภายใน 3 ชั่วโมง และประสานส่งต่อผู้ติดเชื้อเข้าสู่ระบบการรักษา

อย่างไรก็ตาม พบว่าที่ผ่านมามีคลินิกแล็บเอกชนบางแห่งไม่ได้ดำเนินการ ทำให้ผู้ติดเชื้อต้องกลับไปรอที่บ้าน โทรหาโรงพยาบาลเอง และมีความเสี่ยงแพร่เชื้อต่อ จึงต้องมาทำความเข้าใจให้ดำเนินการตามมาตรฐาน รวมถึงดำเนินการตรวจสอบมาตรฐานเป็นระยะ

“การหาเตียงให้ผู้ติดเชื้อ แม้จะเป็นเรื่องการบริหารจัดการ แต่จิ๊กซอว์หนึ่งที่สำคัญคือข้อมูล ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขต้องการข้อมูลจากทางแล็บด้วย เช่น จำนวนผู้ติดเชื้อที่พบ การรายงานข้อมูลผู้ติดเชื้อตามแบบฟอร์มผ่านโคแล็บ จึงจะได้ข้อมูลที่อัปเดต นำมาสู่การบริหารจัดการเรื่องเตียงได้” นายสาธิต กล่าว

นายสาธิต กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 มีค่อนข้างมาก จึงต้องอาศัยการตรวจวินิจฉัยที่รวดเร็ว ซึ่งปัจจุบันมีห้องปฏิบัติการตรวจโควิด-19 ที่ผ่านการรับรองจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จำนวน 280 แห่งทั่วประเทศ โดยส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพมหานคร (กทม.) และเป็นภาคเอกชนมากกว่าภาครัฐ 

นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กล่าวว่า สบส.และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้ร่วมกันตรวจเยี่ยม ประเมิน และให้คำแนะนำแก่คลินิกแล็บตรวจโควิดใน กทม. ซึ่งมีการตรวจแล้ว 4 แห่ง จากคลินิกแล็บที่ผ่านการรับรองให้ตรวจหาโควิด 15 แห่ง โดยได้เน้นย้ำให้ดำเนินการตามมาตรฐาน ทั้งการแจ้งกรมควบคุมโรคเมื่อพบผู้ติดเชื้อ การให้คำแนะนำการปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันแพร่โรค และประสานหาเตียงตามระบบที่วางไว้

นพ.ธเรศ กล่าวว่า คลินิกแล็บเองต้องทำสัญญากับโรงพยาบาลรัฐ เอกชน หรือโรงพยาบาลสนาม เพื่อเป็นหลักประกันว่าผู้ติดเชื้อจะมีสถานพยาบาลรองรับ โดยสัปดาห์หน้าจะตรวจให้ครบทุกแห่งใน กทม. โดยจากการตรวจในวันนี้ก็พบว่าคลินิกแล็บทำตามมาตรฐานได้ดี แม้ว่าขณะนี้มีผู้ติดเชื้อจำนวนมากอาจต้องใช้เวลาในการบริหารจัดการ แต่หากได้ข้อมูลที่สมบูรณ์ก็จะช่วยให้บริหารจัดการได้เร็วขึ้น

ด้าน นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า แม้คลินิกแล็บจะได้รับการรับรองจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ให้ตรวจหาโควิดได้ แต่จะต้องได้รับการทดสอบความชำนาญเป็นระยะ เพื่อให้การรับรองต่อไป จึงต้องมีการออกมาสุ่มตรวจคลินิกแล็บต่างๆ เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชน

นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า สำหรับประชาชนที่มีความเสี่ยงหรือความจำเป็นต้องตรวจหาเชื้อ ขอให้ตรวจสอบว่าคลินิกที่จะไปตรวจอยู่ในการรับรองของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์หรือไม่ ขณะที่ชุดอุปกรณ์ตรวจและน้ำยาตรวจหาเชื้อโควิดนั้น จากการตรวจสต๊อกของห้องปฏิบัติการทั้ง 280 แห่งทุกสัปดาห์ ยืนยันว่าน้ำยามีเพียงพอ และยังมีสำรองส่วนกลางไว้ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ด้วย