ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สปสช. แจงแนวทางดูแลผู้ป่วย ตามนโยบายใหม่ “โรคมะเร็งไปรับบริการที่ไหนก็ได้ที่พร้อม” ด้าน “อนุทิน” ชี้ เป็นหนึ่งในบริการยกระดับบัตรทอง สู่หลักประกันสุขภาพแห่งชาติยุคใหม่


นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า นโยบายโรคมะเร็งไปรับบริการที่ไหนก็ได้ที่พร้อม ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2564 นั้น แม้ว่านโยบายนี้จะชื่อว่า “รับบริการที่ไหนก็ได้ที่พร้อม” แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าผู้ใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) จะไปรับบริการที่หน่วยบริการแห่งใดก็ได้

ทั้งนี้ เนื่องจากโรคมะเร็งมีหลายชนิด และหน่วยบริการแต่ละแห่งก็มีศักยภาพในการรักษาแตกต่างกัน ฉะนั้นนโยบายนี้จะเป็นการ “เปิดช่อง” ให้ผู้ป่วยเลือกหน่วยบิรการได้ แต่จะต้องเป็นหน่วยบริการที่มีศักยภาพและมีความพร้อม โดยมีการปรึกษาหารือร่วมกันกับแพทย์ผู้รักษาและเจ้าหน้าที่ในหน่วยบริการ

สำหรับแนวทางการให้บริการนั้น ในกรณี “ผู้ป่วยใหม่” หากได้รับการวินิจฉัยทางการแพทย์ว่าเป็นโรคมะเร็ง แพทย์จะตัดสินใจร่วมกับผู้ป่วยว่าจะเลือกรับบริการรักษาต่อที่ใด ซึ่งแพทย์จะมีรายชื่อหน่วยบริการที่มีศักยภาพและเหมาะสมกับอาการป่วยในแต่ละรายให้ผู้ป่วยพิจารณา

จากนั้นพยาบาลหรือเจ้าหน้าที่ประสานการส่งต่อ จะทำหน้าที่อำนวยความสะดวกในการประสานการส่งข้อมูลผู้ป่วยเพื่อไปรับบริการยังหน่วยบริการที่เลือก โดยไม่ต้องใช้หนังสือส่งตัว

ในส่วนของ “ผู้ป่วยโรคมะเร็งรายเก่า” หากเป็นผู้ป่วยที่ถูกส่งต่อมารักษายังโรงพยาบาลที่มีศักยภาพอยู่แล้ว สามารถรักษาต่อเนื่องได้โดยไม่ต้องใช้หนังสือส่งตัวเหมือนในอดีต

อย่างไรก็ตาม หากผู้ป่วยมีความต้องการย้ายหน่วยบริการ ให้แจ้งความจำนงกับผู้ประสานงานโรคมะเร็ง (Cancer Coordinator) ของโรงพยาบาลที่รักษาอยู่ ซึ่งจะทำหน้าที่ประสานงานเบื้องต้นไปยังโรงพยาบาลปลายทาง ทั้งนี้ควรคำนึงถึงความสะดวก ความพร้อม และการรอคิวบริการ เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาโดยเร็ว

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า บริการโรคมะเร็งไปรับบริการที่ไหนก็ได้ที่พร้อม เป็น 1 ใน 4 บริการตามนโยบายยกระดับบัตรทอง สู่หลักประกันสุขภาพแห่งชาติยุคใหม่ โดยมีกรมการแพทย์ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข และ สปสช. เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินการ และโรงพยาบาลที่มีศักยภาพในการรักษาโรคมะเร็งที่ได้ร่วมดูแลผู้มีสิทธิบัตรทอง

ทั้งนี้ บริการดังกล่าวจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อผู้ป่วยสิทธิบัตรทองที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็ง ทั้งกรณีผู้ป่วยรายเก่าและผู้ป่วยรายใหม่ที่พึ่งได้รับการวินิจฉัย โดยสามารถเข้ารับบริการรักษาในโรงพยาบาลที่มีศักยภาพในการรักษาโรคมะเร็งแห่งใดก็ได้ในระบบบัตรทองที่มีความพร้อมในการให้บริการ

“การให้บริการนี้ จะครอบคลุมตั้งแต่การตรวจวินิจฉัยโรคมะเร็ง การรักษาด้วยเคมีบำบัดและรังสีรักษา การรักษาด้วยภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากโรคมะเร็งและจากการรักษา รวมถึงการตรวจติดตามผลการรักษา โดยไม่ต้องใช้หนังสือส่งตัว” นายอนุทิน ระบุ

ข้อมูลเพิ่มเติม

สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการหลักประกันสุขภาพในโรงพยาบาล หรือ สายด่วน สปสช. โทร. 1330 หรือ สปสช.สาขาเขตทั้ง 13 เขต และยังสามารถดูแนวทางดูแลรักษาผู้ป่วยมะเร็งสิทธิบัตรทอง ตามบริการใหม่ “โรคมะเร็งไปรับบริการที่ไหนก็ได้ที่พร้อม” รวมถึงตรวจสอบรายชื่อหน่วยบริการรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้ที่เว็บไซต์ สปสช. www.nhso.go.th