ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

แพทย์จากสถาบัน IHRI เผยเห็นด้วยหากรัฐบาลชุดต่อไปทำนโยบาย "บำนาญถ้วนหน้า" ให้เกิดขึ้นจริง ชี้นโยบายแต่ละพรรคสวยหรู แต่ถึงเวลาต้องทำให้ได้ สะท้อนความเห็นเก็บภาษีก้าวหน้า ตัดลดงบประมาณกองทัพ เพิ่มเงินดูแลสุขภาพคนไทยแทน 


นพ.จักรภัทร บุญเรือง แพทย์นักวิจัย สถาบันเพื่อการวิจัยและนวัตกรรมด้านเอชไอวี (IHRI) เปิดเผยว่า เห็นด้วยกับนโยบายที่ทำให้เกิดรัฐสวัสดิการ โดยเฉพาะกับนโยบายหลักประกันรายได้ หรือบำนาญถ้วนหน้าที่จ่ายให้กับประชาชนผู้สูงอายุ ซึ่งหลายพรรคการเมืองประกาศที่จะผลักดันหากได้เป็นรัฐบาลชุดต่อไป เพราะในปัจจุบันบำนาญประชาชนหรือที่เรียกว่า "เบี้ยยังชีพสำหรับผู้สูงอายุ" ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีวิต

ทั้งนี้ แม้ว่าจะประเทศไทยจะมีระบบบริการสาธารณสุขที่ดี มีการเข้าถึงการรักษาที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งทำให้ผู้สูงอายุมีอายุยืนขึ้น แต่ก็จะดีกว่าหากอายุยืนแล้วอยู่ได้ด้วยคุณภาพชีวิตที่ดี จากการได้รับบำนาญผู้สูงอายุที่มีประสิทธิภาพ และสอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน

นพ.จักรภัทร กล่าวว่า จากที่หลายพรรคการเมืองพยายามหาเสียงด้วยแคมเปญบำนาญประชาชน ซึ่งนับเป็นเรื่องดีที่ได้เห็นถึงแนวทาง นโยบาย และที่มาของงบประมาณสำหรับการจัดสรร แต่ทั้งนี้ก็ต้องพิจารณาด้วยว่าหากได้เป็นรัฐบาลแล้ว จะสามารถทำนโยบายดังกล่าวให้เกิดขึ้นจริงได้หรือไม่

สำหรับที่มาของงบประมาณในการจัดสรรบำนาญประชาชน ส่วนตัวเห็นด้วยหากจะให้มีการจัดเก็บภาษีในแบบอัตราก้าวหน้า ซึ่งคนที่มีรายได้เยอะก็ควรจะจ่ายภาษีที่มากกว่า อีกทั้งยังเห็นควรให้ตัดงบประมาณที่ไม่จำเป็นออกไป และปรับทิศทางการใช้งบประมาณเพื่อคุณภาพชีวิตของประชาชนมากขึ้น

"ตัวอย่างเช่นงบประมาณของกองทัพ โดยเฉพาะงบจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ ที่ระบุถึงความจำเป็นว่าต้องเตรียมความพร้อมของอาวุธในกรณีที่อาจเกิดสงคราม แต่สงครามอาจไม่เกิดขึ้น หรือไม่เกิดขึ้นเลย อีกทั้งเมื่อมาเทียบกับโรคต่างๆ ในสังคมที่ยังเป็นสาเหตุให้คนตายทุกวัน และเกินไปกว่าเป้าหมายด้วย จะเห็นได้ว่าสิ่งใดมีความสำคัญมากกว่ากัน ซึ่งการจัดสรรงบประมาณที่ผ่านมาทำให้ดูขัดแย้งอย่างมาก" นพ.จักรภัทร กล่าว

นพ.จักรภัทร ยังกล่าวอีกว่า สิ่งที่คาดหวังจากพรรคการเมือง หรือรัฐบาลชุดต่อไปที่จะเข้ามาบริหารประเทศนั้น อยากเห็นการให้ความสำคัญกับด้านสุขภาพ คุณภาพชีวิตของคนไทย มากกว่าการให้ความสำคัญกับสงคราม หรือความขัดแย้งที่อาจไม่เกิดขึ้นแต่อย่างใด