ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กระทรวงสาธารณสุข เตรียมขยายให้คลินิกเอกชนจัดซื้อยาโมลนูพิราเวียร์ดูแลผู้ป่วยโควิด 19 เองได้เหมือนโรงพยาบาลเอกชน เพื่อเพิ่มการเข้าถึงยา โดยอนาคตอาจขยายให้ร้านขายยาจ่ายยาได้ด้วย แต่ต้องทำโดยผู้ประกอบวิชาชีพและตามข้อบ่งชี้ของกรมการแพทย์


นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยเมื่อวันที่ 18 ก.ค. 2565 ตอนหนึ่งว่า ผู้ติดเชื้อโควิด 19 ไม่จำเป็นต้องได้รับยาต้านไวรัสทุกราย ผู้ที่มีอาการเล็กน้อยสามารถใช้ยารักษาตามอาการหรือใช้ฟ้าทะลายโจรได้ ส่วนผู้ที่ต้องได้รับยาต้านไวรัส ทั้งยาฟาวิพิราเวียร์ โมลนูพิราเวียร์ เรมเดซิเวียร์ แพกซ์โลวิด รวมถึงแอนติบอดี LAAB ที่จะเข้ามาในสัปดาห์หน้านั้น จะขึ้นกับดุลยพินิจของแพทย์ตามแนวทางและข้อบ่งชี้ของกรมการแพทย์ ซึ่งยาเหล่านี้ต้องสั่งใช้โดยผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมเท่านั้น การหาซื้อยารับประทานเองอาจได้รับยาปลอมและเป็นอันตรายได้

นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า สธ. ตั้งเป้าหมายให้โรคโควิด 19 เป็นโรคประจำถิ่นที่ผู้ติดเชื้อสามารถดูแลตนเองได้ ซึ่งกรณียาโมลนูพิราเวียร์ เป็นยาที่แพทย์สั่งจ่ายให้ผู้ป่วยนำกลับไปรับประทานที่บ้านได้ โดยโรงพยาบาลเอกชนได้รับการสนับสนุนยาโมลนูพิราเวียร์จาก สธ. สำหรับดูแลผู้ป่วยโควิด 19 โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และสามารถจัดซื้อยาโมลนูพิราเวียร์มาให้บริการผู้ป่วยโควิด 19 เองเพิ่มเติมได้ 

"เพื่อเพิ่มการเข้าถึงยาโมลนูพิราเวีย์มากขึ้น ที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีโรคโควิด 19 (EOC) จึงเตรียมการให้คลินิกเอกชนสามารถจัดซื้อยาโมลนูพิราเวียร์มาใช้ดูแลผู้ป่วยโควิดได้ด้วยเช่นกัน" นพ.เกียรติภูมิ กล่าว

นพ.เกียรติภูมิ กล่าวอีกว่า ที่ประชุมได้มอบหมายให้ นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รองปลัด สธ. และ นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ จัดทำแผนดำเนินการและกรอบระยะเวลาในเรื่องนี้ของโรงพยาบาลและคลินิกเอกชน โดยให้องค์การเภสัชกรรม (อภ.) ร่วมจัดหายาเพิ่มเติม

"ในอนาคตอาจขยายให้ร้านขายยาสามารถจ่ายยาโมลนูพิราเวียร์ได้ด้วย แต่ยังต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของกรมการแพทย์ คือ เป็นผู้ป่วยอาการสีเหลืองขึ้นไป สำหรับยาโมลนูพิราเวียร์ขณะนี้มีบริษัทที่ขึ้นทะเบียนกับ อย.แล้ว 3 บริษัท” นพ.เกียรติภูมิกล่าว