“อนุทิน” สั่งการ สปสช.เตรียมพร้อมสายด่วน 1330 ร่วมจัดระบบดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 เข้าสู่การรักษาที่บ้าน รองรับหากโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนแพร่ระบาดมากขึ้น พร้อมจัดระบบงบประมาณสนับสนุนหน่วยบริการเพื่อให้บุคลากรด่านหน้าปฏิบัติงานเพื่อผู้ป่วยได้คล่องตัว
นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช). กล่าวว่า จากสถานการณ์เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กลายพันธุ์โดยเฉพาะสายพันธุ์โอมิครอนที่กำลังระบาดทั่วโลกในขณะนี้ ซึ่งประเทศไทยพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนแล้ว โดยรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมแผนการรับมือต่อการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ทั้งการยกระดับและปรับมาตรการในผู้ที่เดินทางเข้าประเทศให้เข้มข้นขึ้น รวมถึงการเตรียมความพร้อมระบบบริการสาธารณสุขเพื่อรองรับผู้ป่วยและผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่อาจจะเพิ่มมากขึ้น ในส่วนของ สปสช.นั้น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข อนุทิน ชาญวีรกูล ได้สั่งการให้ สปสช.เตรียมความพร้อมสายด่วน สปสช. 1330 เพื่อรองรับหากมีการระบาดเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน โดย สปสช.ได้จัดระบบสายด่วน สปสช. 1330 กด 14 เป็นจุดประสานงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 ให้เข้าสู่ระบบการรักษาที่บ้านหรือ Home Isolation รวมถึงการจัดระบบประสานงานส่งต่อผู้ป่วยไปยังหน่วยบริการหากมีอาการรุนแรงขึ้น ซึ่งได้จัดระบบคู่สายและเพิ่มจำนวนจาก 120 คู่สายในปี 2563 เป็น 3,000 คู่สายในปัจจุบันเพื่อให้เพียงพอกับการให้บริการประชาชน
นอกจากนี้ สปสช.ได้เตรียมพร้อมระบบการเบิกจ่ายงบประมาณสนับสนุนการดำเนินงานของหน่วยบริการ เพื่อให้การปฏิบัติงานของบุคลากรด่านหน้ามีความคล่องตัวและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
“ประเทศไทยเพิ่งผ่านพ้นการระบาดรุนแรงของโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา ซึ่ง สปสช.ได้มีส่วนสนับสนุนระบบเพื่อให้ผู้ติดเชื้อได้เข้าสู่การดูแลรักษา การเตรียมความพร้อมสายด่วน สปสช. 1330 ครั้งนี้ เพื่อรองรับการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งประชาชนมั่นใจได้ว่าหากมีการติดเชื้อโควิด-19 ท่านจะได้เข้าสู่ระบบการรักษาอย่างแน่นอน” เลขาธิการ สปสช. กล่าว
แนะนำเนื้อหาน่าสนใจ
อัปเดทล่าสุด
