คาดฉีดวัคซีนเข็ม 3 ได้ก่อน ต.ค.นี้ กระตุ้นผู้ที่ได้รับซิโนแวคครบ 2 เข็ม บูสต์ด้วยแอสตร้าฯ-เร็วกว่าที่กำหนดไว้

รมว.สาธารณสุข เผยกรมควบคุมโรคทำแผนการฉีดวัคซีนโควิดเข็ม 3 ให้ผู้ที่ได้รับ "ซิโนแวค" 2 เข็ม คาดเริ่มได้ก่อนตุลาคมนี้ ประมาณ 2 ล้านคน เตรียมกระตุ้นด้วย "แอสตร้าเซนเนก้า"

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข เปิดเผยว่า ผู้ที่ได้รับวัคซีนซิโนแวคครบ 2 เข็ม ตั้งแต่เดือน มี.ค.-พ.ค. 2564 ประมาณ 3 ล้านคน จะฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 ด้วยแอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นบุคลากรทางการแพทย์และบุคลากรด่านหน้าที่ได้รับเข็ม 3 ไปแล้ว จึงคาดว่าจะเหลือประมาณ 2 ล้านคน

ทั้งนี้ กรมควบคุมโรคกำลังเร่งวางแผนการฉีด โดยพิจารณาทั้งพื้นที่และกลุ่มเสี่ยง ซึ่งคาดว่าจะเริ่มได้ก่อนเดือน ต.ค. ซึ่งเร็วกว่าที่กำหนดไว้ ส่วนยาฟาวิพิราเวียร์มีจำนวนเพียงพอ และกำลังจะส่งไปสำรองไว้ที่จังหวัดต่างๆ จังหวัดละ 50,000-100,000 เม็ด ตามขนาดของจังหวัด เพื่อไม่ให้มีปัญหาการเบิกจ่าย

นายอนุทิน กล่าวว่า ขณะนี้ทั่วประเทศมีการฉีดวัคซีนไปแล้วกว่า 40 ล้านโดส โดยจากศักยภาพการฉีดวัคซีนแต่ละวันเชื่อว่าภายในสิ้นปี 2564 จะฉีดวัคซีนได้มากกว่า 100 ล้านโดส ส่วนปี 2565 รัฐบาลได้เจรจาจัดหาวัคซีนเพื่อฉีดเป็นเข็มกระตุ้น ซึ่งการบริหารจัดการจะง่ายขึ้น เนื่องจากฉีดเพียงเข็มเดียว 

"สำหรับวัคซีนไฟเซอร์ที่จะฉีดในเด็กอายุ 12-18 ปี ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการวัคซีน รวมถึงการตรวจสอบของ อย.ไทยแล้ว จึงจัดหามาฉีดให้เด็กเพื่อให้กลับไปเรียน ใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงปกติมากที่สุด ส่วนวัคซีนอื่นๆ เช่น ซิโนแวค ที่จะฉีดได้ตั้งแต่อายุ 3 ปี ยังไม่ได้มาขึ้นทะเบียนเพิ่มเติม ขณะที่ซิโนฟาร์ม อย.อยู่ระหว่างพิจารณาและขอเอกสารเพิ่มเติม" นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ในส่วนกรณีภูเก็ตแซนบ็อกซ์ที่รับนักท่องเที่ยวต่างชาติ และมีรายงานการติดเชื้อในจังหวัดเพิ่มขึ้นนั้น จะส่งวัคซีนไปเพิ่มเติม รวมถึงจังหวัดใกล้เคียงด้วย เพื่อให้เกิดความปลอดภัยมากขึ้น โดยสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้คาดการณ์และเตรียมการรองรับไว้แล้ว จึงยืนยันว่าระบบสาธารณสุขในพื้นที่ ตั้งแต่ระดับตำบล อำเภอ จังหวัด รวมถึงกลุ่มจังหวัดในเขตสุขภาพ มีความพร้อม ไม่กระทบกับการเปิดประเทศ โดยนายกรัฐมนตรีได้กำชับให้ดำเนินการอย่างรอบคอบ ให้ทั้งประเทศมีความปลอดภัย