ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

รมช.สธ. ลงพื้นที่ติดตามการฉีดวัคซีนโควิด-19 กลุ่ม 608 เร่งรัดให้ได้ตามเป้าหมาย ปรับกลยุทธ์ จ.ระยอง ให้จัดบริการเชิงรุกถึงบ้าน-ชุมชน 


ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยเมื่อวันที่ 10 ก.ย. 2564 ตอนหนึ่งว่า สธ.ได้เร่งรัดการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ได้ครอบคลุมตามเป้าหมาย เพื่อเดินหน้าภาคเศรษฐกิจ และสังคม หากเป็นไปตามเป้าหมายจะสามารถเปิดประเทศได้ สำหรับ จ.ระยอง ถือเป็นหนึ่งในจังหวัดเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก จึงต้องมีการฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมประชากรโดยเร็ว
 
ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 10 ก.ย. 2564 ฉีดวัคซีนไปแล้ว 535,213 โดส ในจำนวนนี้เป็นเข็มที่ 1 จำนวน 345,981 คน คิดเป็น 51.12% ของประชากรเป้าหมาย ส่วนกลุ่ม 608 ที่มีอยู่จำนวน 178,570 คน ขณะนี้ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว 85,521 คน หรือ 47.89% ซึ่งต้องเดินหน้าการฉีดให้ครอบคลุมที่สุด เนื่องจากกลุ่มนี้มีความเสี่ยงหากติดเชื้ออาจป่วยหนักและเสียชีวิตได้  

สำหรับกลุ่ม 608 ได้สั่งการให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดระยองปรับกลยุทธ์จัดบริการเชิงรุกไปยังบ้านที่มีผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง รวมถึงใน รพ.สต. เพื่อให้ประชาชนกลุ่มเป้าหมายเข้าถึงการฉีดวัคซีนได้ง่าย ลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง โดยวันนี้ได้มีบริการฉีดวัคซีนเชิงรุกที่โรงเรียนวัดในไร่ ตำบลเพ จำนวน 400 คน และที่ รพ.สต.พลงตาเอี่ยม อ.วังจันทร์ อีกประมาณ 80 คน
 
“การเดินหน้าฉีดวัคซีนให้เกิดความครอบคลุมต้องฉีดเชิงรุกเข้าไปในบ้าน ในชุมชน นำวัคซีนไปถึงพี่น้องประชาชนกลุ่ม 608 ให้มากที่สุด เพื่อให้ได้รับวัคซีนอย่างทั่วถึง เนื่องจากกลุ่มนี้มีโอกาสติดเชื้อและป่วยรุนแรง อย่างไรก็ตามแม้ฉีดวัคซีนแล้ว ยังคงต้องรักษา 3 มาตรการไว้ คือใส่หน้ากาก เว้นระยะห่าง และล้างมือควบคู่ไปกับการฉีดวัคซีนด้วย” ดร.สาธิตกล่าว

อนึ่ง กลุ่ม 608 คือ 1. กลุ่มผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป 2. กลุ่มผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว 7 โรค คือ โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง, โรคหัวใจและหลอดเลือด, โรคไตวายเรื้อรัง, โรคหลอดเลือดสมอง, โรคอ้วน, โรคมะเร็ง และโรคเบาหวาน 3. กลุ่มหญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป