ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กรมราชทัณฑ์ ผนึกกำลังนำองค์ความรู้การแพทย์แผนไทยสร้างคลังยา "ฟ้าทะลายโจร" เริ่มปลูกในพื้นที่เรือนจำนำร่อง วางเป้าผลิต 3 ระยะ รวมกว่า 65 ล้านแคปซูลใน 4 เดือน หวังเป็นที่พึ่งให้คนไทยรอดโควิด-19


นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าโครงการส่งเสริมการปลูกพืชสมุนไพร “ฟ้าทะลายโจร” ในเรือนจำ เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 2564 ที่ทัณฑสถานเปิดบ้านเนินสูง ต.เนินหอม อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเป็นหนึ่งในเรือนจำนำร่อง ที่จะร่วมกันพลิกพื้นที่ของเรือนจำที่มีอยู่จำนวนมากมาใช้ประโยชน์ ด้วยการปลูกพืชสมุนไพรไทย เช่น ฟ้าทะลายโจร กระชายขาว และสมุนไพรอื่นๆ เพื่อนำมาช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานต่อสู้กับเชื้อไวรัสโควิด-19

นายอายุตม์ เปิดเผยว่า จากนโยบายของ รมว.ยุติธรรม ที่ได้มอบให้กรมราชทัณฑ์ส่งเสริมการปลูกพืชสมุนไพรฟ้าทะลายโจรอย่างเร่งด่วน เนื่องจากที่ผ่านมาพบว่าสามารถช่วยลดความรุนแรงของโรคในกลุ่มผู้ต้องขังที่ติดเชื้อโควิด-19 ได้เป็นอย่างดี ดังนั้นสมุนไพรฟ้าทะลายโจรจึงเป็นอีกหนึ่งความหวังที่จะทำให้ผู้ต้องขัง รวมถึงประชาชนคนไทยรอดพ้นจากโรคระบาดในครั้งนี้ และยังเป็นการส่งเสริมให้ผู้ต้องขังนำไปต่อยอดเป็นอาชีพได้หลังพ้นโทษ

ทั้งนี้ กรมราชทัณฑ์ได้กำหนดแผนงานปลูกและผลิตแคปซูลฟ้าทะลายโจร เป็น 3 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 ตั้งเป้าผลิตจำนวน 8 ล้านแคปซูล ภายในวันที่ 2 ก.ย. 2564 ระยะที่ 2 ตั้งเป้าผลิตจำนวน 50 ล้านแคปซูล ภายในวันที่ 20 ต.ค. 2564 ระยะที่ 3 ตั้งเป้าผลิตจำนวน 7 ล้านแคปซูล ภายในวันที่ 20 พ.ย. 2564

สำหรับทัณฑสถานเปิดบ้านเนินสูง เป็นหนึ่งในพื้นที่นำร่องโครงการส่งเสริมการปลูกพืชสมุนไพร “ฟ้าทะลายโจร” ในเรือนจำ ที่ได้รับการสนับสนุนและร่วมมือเป็นอย่างดีจากภาคีเครือข่าย อาทิ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร วิทยาลัยการแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศร ปราจีนบุรี รวมถึงบริษัทขาวละออโอสถ และโรงงานแปรรูปสมุนไพรต่างๆ 

นายอายุตม์ กล่าวว่า ในครั้งนี้ยังได้มีการเปิดโครงการแปลงสาธิตพืชสมุนไพร “โกฐจุฬาลัมพา” ซึ่งเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณและฤทธิ์ทางยาในการยับยั้งเชื้อไวรัสโควิด-19 และจะมีการยกระดับให้เป็นศูนย์การเรียนรู้การปลูกฟ้าทะลายโจรแบบครบวงจร โดยการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรสมุนไพรที่มีอยู่ในประเทศอย่างเป็นระบบ ส่งผลให้ประเทศไทยสามารถพึ่งพาตนเอง ด้วยการสร้างคลังยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจร และเป็นการสร้างความมั่นคงทางยาให้กับประเทศไทยในอนาคต