ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สมาคมทนายความฯ ออกแถลงการณ์เรียกร้อง ครม. ทบทวนการสั่งซื้อวัคซีนที่ไม่มีประสิทธิภาพ ส่อขัดต่อรัฐธรรมนูญ-กฎหมาย ยินดีเป็นตัวแทนประชาชนดำเนินคดี


สมาคมทนายความแห่งประเทศไทย ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 7 ก.ค. 2564 เรียกร้องให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ทบทวนการสั่งซื้อวัคซีนที่ไม่มีประสิทธิภาพที่สามารถป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ให้กับประชาชน เพราะเงินที่ใช้ในการจัดซื้อเป็นเงินที่มาจากภาษีของประชาชน จึงต้องดำเนินการให้สมประโยชน์แก่ประชาชนและเป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญและกฎหมาย

ทั้งนี้ ทางสมาคมฯ ระบุว่า การดำเนินการหรือให้ความเห็นชอบกับกระบวนการที่มิได้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายคือการปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โดยสมาคมฯ ยินดีเป็นตัวแทนของประชาชนเพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องอันเป็นการปกป้องผลประโยชน์และชีวิตของประชาชนที่ได้รับความเสียหายจากการดำเนินการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายดังกล่าว

สำหรับเนื้อหาของแถลงการณ์ที่ลงนามโดย นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย ระบุว่า ตามที่ได้เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ซึ่งเป็นโรคติดต่อได้ง่ายและเป็นอันตรายอย่างมากต่อชีวิตของผู้ได้รับเชื้อ ซึ่งต่อมานายกรัฐมนตรีได้อาศัยอำนาจตามมาตรา 5 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วราชอาณาจักรเพื่อควบคุมการแพร่ระบาด นั้น

โดยที่โควิด-19 เป็นโรคติดต่ออันตรายทั้งตามประกาศขององค์การอนามัยโลก และประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าว รัฐจึงมีหน้าที่ที่จะต้องดำเนินการให้ประชาชนได้รับบริการสาธารณสุขที่มีประสิทธิภาพอย่างทั่วถึง ส่วนประชาชนก็ย่อมมีสิทธิที่จะได้รับการป้องกันและขจัดโรคติดต่ออันตรายจากรัฐโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย อันเป็นไปตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 55 และ มาตรา 47 วรรคสาม

เพื่อป้องกันและขจัดโรคติดต่ออันตรายดังกล่าว รัฐบาลได้สั่งซื้อวัคซีนซิโนแวคมาฉีดให้กับประชาชนโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ล่าสุดเมื่อวันที่ 6 ก.ค. 2564 ครม.ได้อนุมัติให้มีการสั่งซื้อวัคซีนซิโนแวคเพิ่มเติมอีกจำนวน 10.9 ล้านโดส ในวงเงินจำนวน 6,100 ล้านบาท แต่ปัจจุบันเกิดข้อถกเถียงทางการแพทย์ว่า วัคซีนดังกล่าวไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์อินเดีย (Delta) หรือสายพันธุ์อื่นๆ ที่กำลังแพร่ระบาดทั่วโลกรวมทั้งในประเทศไทยในขณะนี้ได้

"วัคซีนซิโนแวคมีประสิทธิภาพเพียงป้องกันไม่ให้ผู้ที่ติดเชื้อต้องเสียชีวิตลงเท่านั้น ดังนั้น การสั่งซื้อวัคซีนซิโนแวคและการที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้มีการสั่งซื้อเพิ่มเติมดังกล่าวจึงมิได้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญและขัดต่อกฎหมายทำให้ประเทศชาติและประชาชนได้รับความเสียหาย" เนื้อหาตอนหนึ่งของแถลงการณ์ ระบุ

แถลงการณ์ ยังระบุอีกว่า ส่วนที่อ้างว่ารัฐบาลจะต้องปฏิบัติตามสัญญาที่ลงนามไว้แล้วนั้น สมาคมทนายความแห่งประเทศไทย เห็นว่า วัตถุประสงค์ของการซื้อขายวัคซีนเพื่อนำมาฉีดให้กับประชาชน ป้องกันการติดเชื้อจากไวรัสดังกล่าว ดังนั้น หากวัคซีนดังกล่าวไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อที่กลายพันธุ์ได้ รัฐบาลซึ่งเป็นฝ่ายผู้ซื้อย่อมมีสิทธิที่จะยกเลิกสัญญาหรือปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามสัญญาต่อไปได้ เพราะวัคซีนที่จะส่งมอบมิได้มีคุณสมบัติเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของสัญญา