ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สปสช.ร่วมกับกรมการแพทย์-ศูนย์เอราวัณ ตั้งเป้าหาเตียงให้ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ได้เร็วขึ้น หลังพบปัญหาผู้ป่วยใน กทม. ยังต้องรอเข้าเตียง แม้จะมีจำนวนเพียงพอ


นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า สถานการณ์การจัดหาเตียงแก่ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในต่างจังหวัดค่อนข้างมีประสิทธิภาพ สามารถรองรับผู้ป่วยได้หมด แต่พบว่าปัญหาส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพมหานคร (กทม.) ซึ่งมีผู้ป่วยบางส่วนที่ยังไม่ได้เตียง และปัญหาก็ไม่ใช่เรื่องเตียง เพราะจากข้อมูลพบว่าจำนวนเตียงมีเพียงพอ แต่เนื่องจากมีหลายหน่วยงาน โรงพยาบาลหลายสังกัด ทำให้ผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิดบางส่วนยังไม่สามารถเข้าเตียงได้

"ข้อมูลที่ปรากฏกับความเป็นจริงยังไม่ตรงกันอยู่ หลังจากที่ สปสช. ช่วยดูในการหาเตียงให้กับประชาชนมา 4-5 วันนี้ พบว่ามีคนประสานขอเตียงเข้ามากว่า 400 คน บางคนยังไม่ได้จริงๆ แต่ตอนนี้เรากำลังพยายามเคลียร์ โดยให้คำแนะนำกับผู้ป่วยที่อาการไม่มากให้รออยู่ก่อน รวมทั้งมีกระบวนการโทรติดตามอาการทุกๆ 6 ชั่วโมง ซึ่งขณะนี้จำนวนผู้ที่ยังตกค้างก็เริ่มลดลงเนื่องจากโรงพยาบาลต่างๆ สามารถจัดหาเตียงได้มากขึ้น" นพ.จเด็จ กล่าว

นพ.จเด็จ กล่าวว่า แนวทางแก้ไขปัญหาจะต้องใช้กลไกการประสานงานให้มากที่สุด ซึ่งขณะนี้กลไกกลางที่มาช่วยประสานคือ สายด่วน 1330 ของ สปสช. สายด่วน 1668 ของกรมการแพทย์ และสายด่วน 1646 ของศูนย์เอราวัณ ซึ่งได้มีการหารือกับผู้บริหารของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และตั้งเป้าว่าจะต้องประสานหาเตียงให้ผู้ติดเชื้อให้ได้เร็วที่สุด

"จากข้อมูลของ 1330 เราใช้เวลาประสานงานนานที่สุด 3 วัน เนื่องจากบางครั้งคนไข้โทรศัพท์มาบอกผลเลือด แต่เรายังไม่ได้ผลการตรวจตัวจริง ก็ต้องไปตรวจสอบกับโรงพยาบาลก่อน เมื่อตรวจสอบเสร็จก็ก็ส่งข้อมูลให้โรงพยาบาลปลายทาง ซึ่งตรงนี้เป็นหน้าที่ของเราที่จะประสานให้ รวมทั้งจัดการโทรหาทุกๆ 6 ชั่วโมง เพื่อแจ้งผลว่าอยู่ขั้นตอนไหน รวมทั้งจะได้ติดตามอาการผู้ป่วยไปในตัว แต่หากระหว่างรอเตียงแล้วอาการแย่ลง ก็จะมีกลไกสำหรับผู้ป่วยอาการหนักไปรับตัวมารักษาที่โรงพยาบาล" นพ.จเด็จ กล่าว

นพ.จเด็จ กล่าวอีกว่า ในส่วนของผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการนั้น ส่วนใหญ่จะจัดให้อยู่ในโรงพยาบาลสนามหรือ Hospitel ซึ่งมีบุคลากรทางการแพทย์คอยดูแลตลอด 24 ชั่วโมง โดยลักษณะการจัดการของโรงพยาบาลสนามเป็นการจัดการตามหลักวิชาการเพื่อป้องกันการแพร่กระจายโรค อย่างไรก็ตามอาจมีผู้ป่วยบางส่วนอาจคิดถึงความสะดวกหรือห้องพิเศษ จึงต้องเรียนว่าในภาวะเช่นนี้ต้องขอความร่วมมือเสียสละมาอยู่ตรงนี้ก่อน

"เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบพยายามจัดสถานที่ให้ดีที่สุด จะเห็นว่าเตียงหรืออุปกรณ์ต่างๆ ก็ใหม่ ห้องน้ำก็พยายามเพิ่มเติมให้เหมาะสม เพียงแต่อาจจะไม่สะดวกสบายอย่างที่คาดหวัง อย่าเพิ่งมองเรื่องสถานที่แต่ขอให้มองถึงความจำเป็นที่ต้องลดการแพร่ระบาดของโรคมากกว่า" นพ.จเด็จ กล่าว