ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สปสช.วอนคนในชุมชนอย่ากังวล หากมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 กักตัวที่บ้านระหว่างรอประสานหาเตียงในโรงพยาบาล ชี้มีแนวปฏิบัติป้องกันการแพร่เชื้อ-เจ้าหน้าที่การแพทย์ติดตามดูแลใกล้ชิด


นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า จากการโทรติดตามอาการของสายด่วน 1330 พบว่ามีกรณีล่าสุดของผู้ป่วยรายหนึ่ง ซึ่งตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19 แต่ไม่แสดงอาการ และต้องกักตัวที่บ้านระหว่างรอประสานจัดหาเตียง แต่กลับถูกเพื่อนบ้านเข้าใจผิดว่าหลบเลี่ยงการรักษา จนเกิดความไม่สบายใจว่าจะเกิดการแพร่ระบาดจนแจ้งตำรวจให้มารับตัวส่งโรงพยาบาล

ทั้งนี้ จึงขอเรียนให้ทราบว่ากรณีดังกล่าวผู้ป่วยไม่ได้หลบเลี่ยงการรักษาแต่อย่างใด ซึ่งการกักตัวอยู่ที่บ้านเป็นไปเพราะรอการประสานหาเตียง และได้รับการติดตามดูแลจากบุคลากรทางการแพทย์อยู่ตลอด อีกทั้งการกักตัวนั้นก็ไม่ทำให้เกิดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อให้แก่เพื่อนบ้านด้วย จึงขอประชาชนขออย่าได้กังวล และในทางกลับกัน การเห็นอกเห็นใจกัน สร้างความตระหนักรู้ที่ถูกต้อง จะยิ่งทำให้ชุมชนเข้มแข็งและรับมือกับการระบาดในครั้งนี้ได้

"ระยะนี้จำนวนผู้ติดเชื้อยังเพิ่มจำนวนขึ้นทุกวัน ทำให้เตียงในโรงพยาบาลหนาแน่นและผู้ป่วยบางส่วนต้องรอการจัดหาเตียง ระหว่างนั้นก็ต้องการกักตัวอยู่ที่บ้าน ซึ่งอยากขอความร่วมมือเพื่อนบ้านในชุมชนว่าอย่าวิตกกังวลหรือแสดงอาการรังเกียจผู้ติดเชื้อ เพราะวัตถุประสงค์ของการกักตัวก็เพื่อป้องกันการแพร่เชื้ออยู่แล้ว" นพ.จเด็จ กล่าว

นพ.จเด็จ กล่าวว่า หากปฏิบัติตามคำแนะนำของกรมควบคุมโรคในระหว่างกักตัว โอกาสที่จะแพร่เชื้อมีน้อยมาก อีกทั้งผู้ที่อยู่ในการกักตัวก็ได้รับการติดตามอาการจากโรงพยาบาลหรือเจ้าหน้าที่ของ สปสช.อย่างใกล้ชิด โดยแนวปฏิบัติตัวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการอยู่ในที่พักอาศัย 14 วัน ไม่รับประทานอาหารและใช้ภาชนะร่วมกับผู้อื่น ไม่ใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่นาน 20 วินาทีหรือแอลกอฮอล์ 70%

นอกจากนี้ ผู้กักตัวยังต้องสวมหน้ากากอนามัยและอยู่ห่างจากคนอื่นประมาณ 1-2 เมตร ทิ้งหน้ากากอนามัยในลักษณะที่มิดชิด เมื่อไอจามให้ใช้ทิชชูปิดปากปิดจมูกถึงคางทุกครั้ง ทำความสะอาดบริเวณที่พักด้วยน้ำยาฟอกขาว 5% และทำความสะอาดเสื้อผ้า ผ้าปูเตียง ผ้าขนหนู หรืออื่นๆ ด้วยผงซักฟอกและน้ำธรรมดา หรือซักผ้าด้วยน้ำร้อน อุณหภูมิ 70-90 องศาเซสเซียส โดยข้อปฏิบัติเหล่านี้ล้วนเป็นไปเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อทั้งสิ้น