ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

‘กทม.’ ผนึก ‘สพฉ.’ คิกออฟ 'ระบบเบิกจ่ายตรง’ ให้หน่วยปฏิบัติการเครือข่ายการแพทย์ฉุกเฉิน ลดระยะเวลา - เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน


วันที่ 5 มี.ค. 2567 รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นประธานเปิดกิจกรรม “Kick off ระบบเบิกจ่ายตรง เครือข่ายการแพทย์ฉุกเฉินกรุงเทพมหานคร” และมอบหนังสืออนุมัติให้เป็นหน่วยปฏิบัติการแพทย์ในระบบการแพทย์ฉุกเฉิน ประเภทปฏิบัติการแพทย์ ระดับสูงและระดับพื้นฐาน โดยมี นายชาตรี วัฒนเขจร รองปลัด กทม. ผู้บริหารสำนักการแพทย์ ผู้บริหารศูนย์เอราวัณ กทม. ผู้บริหารสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) และหน่วยปฏิบัติการแพทย์ในระบบการแพทย์ฉุกเฉิน ประเภทปฏิบัติการแพทย์ ระดับสูงและระดับพื้นฐาน 30 หน่วย เข้าร่วมกิจกรรม

1

รองผู้ว่าฯ ทวิดา เปิดเผยว่า กทม. อยากให้ประชาชนที่เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินไม่ว่าเหตุใดก็ตาม เมื่อเรียกใช้บริการการแพทย์ฉุกเฉินจะต้องไม่ถูกปฏิเสธ รวมถึงถูกรับและส่งต่อได้อย่างรวดเร็ว โดยที่ผ่านมาหน่วยปฏิบัติการทำงานอย่างเต็มที่มาตลอด แต่เมื่อการเบิกจ่ายล่าช้าและไม่สะดวกทำให้ผู้ปฏิบัติงานเกิดข้อกังวลในการทำงาน 

ดังนั้นเรื่องระบบเบิกจ่ายตรงนี้จึงส่งผลให้ผู้ปฏิบัติงานด้านการแพทย์ฉุกเฉินออกไปทำงานได้เลยโดยไม่ต้องกังวลว่าจะสามารถได้รับการชดเชยด้านค่าใช้จ่ายหรือไม่ อีกทั้งเกื้อหนุนระบบการทำงานให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น และทำให้ประชาชนได้รับบริการที่ดีขึ้น

2

ด้าน นายไพศาล ก้อนจำปา ผู้ช่วยเลขาธิการ สพฉ. กล่าวว่า วันนี้ สพฉ. มีความยินดีมากนอกจากระบบเบิกจ่ายตรงแล้ว ได้ทราบว่า กทม. ได้มีหน่วยปฏิบัติการเพิ่มเติม 67 หน่วย ซึ่งเป็นหน่วยระดับสูงจะสามารถให้บริการประชาชนได้เต็มศักยภาพ เพิ่มโอกาสในการรอดชีวิตหรือไม่มีภาวะทุพพลภาพได้ดีขึ้น

นายไพศาล กล่าวต่อไปว่า กทม. ถือเป็นจังหวัดแรกที่มีจำนวนหน่วยปฏิบัติการฉุกเฉินระดับสูงมากที่สุด และมากไปกว่านั้นมูลนิธิร่วมกตัญญู และมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เป็น 2 มูลนิธิแรกในเขต กทม. และของประเทศไทยที่จะยกระดับจากพื้นฐานขึ้นเป็นหน่วยปฏิบัติการแพทย์ในระบบการแพทย์ฉุกเฉินประเภทปฏิบัติการแพทย์ระดับสูง ซึ่งจะเป็นการเพิ่มทรัพยากรการช่วยเหลือประชาชนจากองค์กรที่ไม่แสวงหากำไรมากขึ้น

3

ทั้งนี้ ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน และยังเข้ามามีบทบาทอย่างมากในการพัฒนาระบบการปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดย กทม. ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉิน จึงดำเนินการความร่วมมือกับ สพฉ. ในการนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศรูปแบบต่างๆ มาใช้

สำหรับการปฏิบัติงานด้านการแพทย์ฉุกเฉินให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งการบริหารจัดการระบบการแพทย์ฉุกเฉินนอกจากการปฏิบัติการทางการแพทย์ที่มีความสำคัญแล้วนั้น ระบบการสนับสนุนด้านงบประมาณและการเบิกจ่ายค่าชดเชยให้แก่หน่วยปฏิบัติการจำเป็นต้องดำเนินการได้อย่างรวดเร็วและถูกต้องเช่นกัน สพฉ. จึงได้พัฒนาระบบจัดสรรเงินค่าชดเชยการปฏิบัติการด้วยระบบจ่ายตรงให้กับหน่วยปฏิบัติการ โดยลดขั้นตอน ลดระยะเวลา และลดความผิดพลาดของการเบิกจ่าย เพื่อให้เกิดการจัดสรรเงินไปยังหน่วยปฏิบัติการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และตรวจสอบได้