ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สวรส. หารือ สกสว. ร่วมมองแนวทางอนาคตขับเคลื่อนวิจัยระบบสุขภาพของประเทศ พร้อมจัดระบบบริหารงบวิจัยให้เกิดประโยชน์สูงสุด


เมื่อวันที่ 18 ต.ค. 2566 สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) นำโดย นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ ผู้อำนวยการ สวรส. ผศ.ดร.จรวยพร ศรีศศลักษณ์ รองผู้อำนวยการ สวรส. นายธีรธัช กันตามระ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สวรส. ทพ.จเร วิชาไทย น.ส.บุณยวีร์ เอื้อศิริวรรณ ผู้จัดการงานวิจัย สวรส. และ นายวิทพงศ์ สินสูงสุด หัวหน้าหน่วยงานนโยบายและแผน ร่วมประชุมหารือกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) นำโดย รศ.ดร.ปัทมาวดี โพชนุกูล ผู้อำนวยการ สกสว. และผู้บริหาร สกสว. 

1

ทั้งนี้ เพื่อหารือกรอบการดำเนินงาน แนวทางการขับเคลื่อนเชิงนโยบายในประเด็นการสนับสนุนการวิจัยเพื่อพัฒนาระบบสาธารณสุขของประเทศ และขอบเขตการวิจัยในบทบาทของหน่วยบริหารและจัดการทุน (Program Management Unit: PMU) ด้านสุขภาพ ตลอดจนการพัฒนาแนวทางการบริหารจัดการงบประมาณการวิจัยด้านสุขภาพของประเทศ ที่ได้รับการจัดสรรผ่านกองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กองทุน ววน.) 

สำหรับการดำเนินงานของ สวรส. อยู่ภายใต้ 2 ยุทธศาสตร์หลัก คือ ยุทธศาสตร์ที่ 1. พัฒนาระบบเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy: BCG) ในด้านการแพทย์และสุขภาพให้เป็นระบบเศรษฐกิจมูลค่าสูงมีความยั่งยืนและเพิ่มรายได้ของประเทศ และยุทธศาสตร์ที่ และ 2. ยกระดับความมั่นคงทางสุขภาพของประเทศให้พร้อมรับโรคระบาดระดับชาติและโรคอุบัติใหม่

4

นพ.ศุภกิจ เปิดเผยในช่วงหนึ่งของการหารือร่วมกันว่า สวรส. มีความมุ่งมั่นที่จะจัดทัพ จัดระบบให้เกิดการทำงานบูรณาการกันเป็นเครือข่าย ไม่ทับซ้อนกันในการทำงาน โดยอาจมีการพัฒนากลไกให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกันหรือหารือกันก่อน เพื่อลดโอกาสของการทำงานที่ทับซ้อนกัน โดยเร็วๆ นี้ สวรส. จะมีการจัดประชุมกับเครือข่ายวิจัยภายในกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) PMU ที่มีการสนับสนุนทุนวิจัยด้านสุขภาพ 

ตัวอย่างเช่น สถาบันวัคซีน ฯลฯ เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่รู้เขารู้เรา และนำไปสู่การวางแผนการทำงานเชื่อมโยงกัน หนุนเสริมกันอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ สวรส. พร้อมที่จะเป็น Focal Point ด้านวิจัยระบบสุขภาพของประเทศ และจะพยายามสร้างเครือข่ายการวิจัยระบบสุขภาพของประเทศให้มีความเข้มแข็ง ตลอดจนช่วยกันออกแบบการพัฒนางานวิจัยที่สามารถยกระดับความั่นคงด้านสุขภาพของประเทศได้ในอนาคต  

4