ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กรมสุขภาพจิต จัดกิจกรรมวันสุขภาพจิตโลก 2023 ภายใต้ Theme : Mental Health Anywhere เพื่อนแท้มีทุกที่ พร้อมชูประเด็นเร่งด่วน Quick win 100 วันแรก พร้อมผลักดันนโยบายสุขภาพจิตและยาเสพติดให้ทั่วถึงและครอบคลุม


เมื่อวันที่ 9 ต.ค. 2566 กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) โดยกรมสุขภาพจิต จัดกิจกรรมวันสุขภาพจิตโลก 2023 ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน พร้อมเผยนโยบายเร่งด่วน Quick win 100 วัน ประเด็นสุขภาพจิตและยาเสพติด โดยจับมือกรมการแพทย์จัดตั้งมินิธัญญารักษ์ดูแลผู้ป่วยจิตเวชและยาเสพติดอย่างครบวงจรทุกจังหวัด มีหอผู้ป่วยจิตเวชยาเสพติดทุกจังหวัด และมีกลุ่มงานจิตเวชและยาเสพติดครบทุกอำเภอ ขยายบริการตามแนวคิด Mental Health Anywhere เพื่อนแท้มีทุกที่

3

นพ.ชลน่าน  ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ตามที่สหพันธ์สุขภาพจิตโลก (The World Federation for Mental Health: WFMH) ได้กำหนดให้วันที่ 10 ต.ค. ของทุกปี ป็นวันสุขภาพจิตโลก (World Mental Health Day) นับตั้งแต่ปี 2535 เป็นต้นมา เพื่อให้ประชากรทั่วโลกได้ตระหนักถึงความสำคัญของสุขภาพจิต  ซึ่งแนวคิดของประเทศไทยในการจัดกิจกรรมวันสุขภาพจิตโลก 2023 ในวันนี้ กำหนดขึ้นภายใต้ Theme : Mental Health Anywhere เพื่อนแท้มีทุกที่” 

เนื่องจากเมื่อทุกคนมีสิทธิก็จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องส่งต่อและสนับสนุนให้ประชาชนทุกคนเข้าถึงสิทธิที่พึงจะได้รับการดูแล รวมถึงการร่วมมือเพื่อป้องกันและบำบัดรักษาผู้ที่เจ็บป่วยทางด้านจิตใจ โดย สธ. ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการกลไกการช่วยเหลือและบริการที่จะทำให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด แนวคิดที่จะขยายการบริการการดูแลรักษาฟื้นฟูสุขภาพจิตและจิตเวชให้ประชาชนในทุกพื้นที่ได้รับบริการอย่างทั่วถึง โดยได้มีประกาศเป็นนโยบาย สธ. Quick win 100 วันแรก 

ทั้งนี้ ในประเด็นสุขภาพจิตและยาเสพติด โดยจะเป็นความร่วมมือระหว่างกรมสุขภาพจิต กรมการแพทย์และสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สป.สธ.) กล่าวคือ 1. มีแผนการจัดตั้งศูนย์มินิธัญญารักษ์ดูแลผู้ป่วยจิตเวชและยาเสพติดอย่างครบวงจรทุกจังหวัด 2. มีการจัดตั้งหอผู้ป่วยจิตเวชยาเสพติดในโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป ครอบคลุมทุกจังหวัดและ 3. มีการจัดตั้งกลุ่มงานจิตเวชและยาเสพติดในโรงพยาบาลชุมชน ครบทุกอำเภอต่อไป เพราะกลไกเพื่อนแท้ในการดูแลประชาชน เพราะสุขภาพใจที่ดีและเข้มแข็งจะนำไปสู่การสร้างสุขภาพกาย สุขภาพปัญญา และสุขภาพสังคมที่มีคุณภาพอย่างยั่งยืน

2

2

นพ.พงศ์เกษม ไข่มุกด์ รองปลัด สธ. รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า กรมสุขภาพจิต ได้ประสานความร่วมมือกับ สป.สธ. ในด้านการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานของหอผู้ป่วยจิตเวช และกลุ่มงานจิตเวชเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการดูแลประชาชน นอกจากนี้กรมสุขภาพจิตยังได้ดำเนินงานด้านการรณรงค์ สื่อสารประชาสัมพันธ์ โดยเฉพาะการให้พัฒนาศักยภาพของประชาชนให้มีความเข้มแข็งทางจิตใจ และร่วมกันช่วยเหลือกันและกันให้ก้าวผ่านสถานการณ์ที่สับสนสนหรือยากลำบาก 

เพราะร่างกายและจิตใจมีความเชื่อมโยงกัน หากมีปัญหาสุขภาพจิตก็จะส่งผลต่อสุขภาพกาย ในขณะที่หากสุขภาพกายทรุดโทรมเสื่อมถอย ก็ส่งผลให้เกิดความเครียดจากความรู้สึกเป็นทุกข์ทางใจตามมา ซึ่งยาเสพติดก็เป็นปัญหาที่สำคัญที่ส่งผลททั้งกายและจิต ซึ่งเป้าหมาย Quick win 100 วันในประเด็นสุขภาพจิตและยาเสพติด จึงเป็นหนทางที่จะทำให้กลไลทางสุขภาพทั้ง 2 ด้านได้รับการดูแลทำงานสอดประสานให้ดียิ่งขึ้น 

2

นพ.พงศ์เกษม กล่าวต่อไปว่า องค์ประกอบสำคัญที่ช่วยให้สถานการณ์การดูแลผู้ป่วยจิตเวชให้ต่อเนื่องดีขึ้นได้ในขณะนี้ คือการประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานสาธารณสุขและหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ ให้รับทราบและวิเคราะห์ข้อมูลผู้ป่วย จัดทำแนวทางบูรณาการทรัพยากรและบทบาทหน้าที่เพื่อช่วยกันดูแลติดตามฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ป่วยจิตเวชและยาเสพติดอย่างเป็นระบบ กระตุ้นครอบครัวผู้ป่วยหมั่นใส่ใจดูแล พร้อมรณรงค์สร้างความเข้าใจแก่ชุมชนและให้โอกาสทำให้ผู้ป่วยมีกำลังใจ และทำการรักษาต่อเนื่อง เพื่อใช้ชีวิตร่วมกันกับผู้อื่นและไม่เป็นปัญหา เพื่อให้ผู้ที่ต้องการทางออกเข้าถึงบริการทางสุขภาพจิตและได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที 

ทั้งนี้ สธ. โดยกรมสุขภาพจิต ขอแสดงความขอบคุณที่ได้รับความร่วมมือที่ดียิ่ง จากคณะผู้บริหาร สธ., สำนักอนามัยกรุงเทพมหานคร (กทม.), ผู้บริหารศูนย์การค้าสยามพารากอนที่เอื้อเฟื้อสถานที่ในการจัดงาน ผู้แทนจากองค์การยูนิเซฟแห่งประเทศไทย ผู้แทนจากมูลนิธิกำแพงพักใจ และภาคีเครือข่ายด้านสุขภาพจิตทั้งภาครัฐและเอกชน จนเป็นกิจกรรมในวันนี้ โดยกรมสุขภาพจิตจะนำสาระ ความรู้ ที่ได้รับจากผู้ทรงคุณวุฒิไปเผยแพร่ผ่านสื่อโซเชียล เพื่อขยายประโยชน์จากการจัดงานไปสู่ประชาชาชนในวงกว้างต่อไป

4