ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

‘หมอชลน่าน’ เผย ให้ความสำคัญกับ ‘บุคลากรทางการแพทย์’ ถ้า ก.พ. ไม่มีปัญหา-นายกฯ เห็นชอบ คาดปี 68 ออกกฎหมายบริหาร ขรก. เอง


วันที่ 15 ก.ย. 2566 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยหลังหน่วยงานต่างๆ จากทั้งภาครัฐและเอกชนเข้าเพื่อแสดงความยินดี ว่า ในส่วนข้อกังวลว่าบุคลากรทางการแพทย์จะเพียงพอรองรับต่อการยกระดับระบบหลักประกันสุขภาพ (บัตรทอง 30 บาท) ซึ่งเป็นหนึ่งใน 13 นโยบายสาธารณสุข และยังเป็น Quick win ที่ตั้งเป้าหมายไว้นั้น ต้องยอมรับว่าในประเด็นนี้ยังคงมีปัญหาอยู่ เพราะ สธ. อยู่ภายใต้เงื่อนไขการบริหารจัดการกำลังของสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ซึ่งได้จำกัดอัตราข้าราชการหรือลูกจ้างที่เกี่ยวข้องสำหรับงานบริการ สธ. ไว้ จึงทำให้ สธ. มีปัญหาในการหาบุคลากรเติมเข้าสู่ระบบพอสมควร 

นพ.ชลน่าน กล่าวต่อไปว่า ถึงแม้จะมีการทดแทนด้วยการจ้างตาม แต่ด้วยลักษณะของลูกจ้างความมั่นคงในวิชาชีพและอาชีพ ความมั่นใจที่จะอยู่ในระบบของตัวบุคลากรส่วนนี้ก็ขาดหายไป ซึ่งเรื่องสวัสดิภาพและสวัสดิการของคนทำงานถือเป็นหนึ่งในเรื่องหลักสำคัญที่จะต้องถูกปรับถูกแก้ 

ทั้งนี้ ในการนำไปสู่การปฏิบัติจะมีการกำหนดกรอบเวลาในรายละเอียดอยู่แล้ว เช่น เรื่องบุคลากรทางการแพทย์ โดยคาดหวังว่าถ้าสามารถเจรจากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสำเร็จ ทั้งได้รับความเห็นชอบจากนายกรัฐมนตรี และ ทาง ก.พ. ไม่มีปัญหา ในปี 2568 สธ. น่าจะมีกฎหมายว่าด้วยหน่วยงานและบริหารข้าราชการใน สธ. 

สำหรับการนำร่องในการให้ผู้ใช้สิทธิบัตรทองใช้บัตรประชาชนใบเดียวสามารถรับบริการสิทธิประโยชน์ในทุกโรงพยาบาลสำหรับเขตสุขภาพที่พร้อม ก็เป็นหนึ่งในนโยบายสาธารณสุข ที่จะประกาศเป็น Quick win อยู่แล้ว และทาง นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัด สธ. ได้เลือกไว้เรียบร้อยแล้ว โดยหลังจากนี้จะมีการประกาศอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งจะเป็นไปเพื่อดูถึงปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้น ก่อนขยายเป็นในระดับประเทศ

ส่วนอีก 2 สิทธิ์รักษา (ประกันสังคม สวัสดิการข้าราชการ) จะสามารถข้ามมาใช้สิทธิ์บัตรทองได้หรือไม่นั้น ต้องเข้าใจว่าแต่ละกองทุนมีกฎหมายรองรับอยู่ เพราะฉะนั้นการปรึกษาหารือ การพูดคุยในการใช้บริการ ซึ่งอาจมีความคาบเกี่ยว และลักลั่นกันอยู่ จะมีคณะกรรมกจารชุดหนึ่งขึ้นมารองรับอยู่ เพื่อทำให้การจัดบริการสอดรับสอดคล้องกับ เนื่องจากสิทธิประโยชน์ที่ควรใกล้เคียงกัน