ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สำนักข่าว Nikei Asia รายงานว่าประเทศฟิลิปปินส์ขณะนี้กำลังประสบปัญหาขาดแคลนพยาบาลอย่างหนักจนรัฐบาลต้องจัดหาพยาบาลที่ไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเข้ามาดูแลผู้ป่วยในโรงพยาบาลของรัฐ 

ทั้งนี้ สาเหตุสำคัญมาจากภาระงานจำนวนมากในโรงพยาบาลรัฐ แต่ค่าตอบแทนที่ได้ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ ทำให้พยาบาลส่วนใหญ่ตัดสินใจลาออก และเลือกไปทำงานที่ต่างประเทศ โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา และในทวีปยุโรปที่ได้ค่าตอบแทนที่สูงกว่า ด้วยพยาบาลฟิลิปปินส์ขึ้นชื่อเรื่องการดูแลผู้ป่วยที่มีคุณภาพดี และมีประสิทธิภาพ จึงมีหลายประเทศต้องการพยาบาลจากฟิลิปปินส์ไปเสริมระบบบริการสุขภาพ  

สถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้เองทำให้รัฐบาลฟิลิปปินส์ต้องเร่งจัดการปัญหาเพื่อหลีกเลี่ยงวิกฤตด้านการดูแลสุขภาพในประเทศ โดยล่าสุด ทีโอโดโร เฮอร์โบซา (Teodoro Herbosa) รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของฟิลิปปินส์ ได้ประกาศแผนการจ้างพยาบาลที่ไม่มีใบอนุญาตจำนวน 4,500 ตำแหน่ง เพื่อบรรจุในโรงพยาบาลของรัฐ 

ทว่า มีเงื่อนไข คือ ต้องเป็นพยาบาลที่สอบใบอนุญาตประกอบวิชาชีพไม่ผ่าน แต่ได้คะแนนอยู่ที่ 70-74% โดยจะมีสิทธิได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพชั่วคราว และในอนาคตทางกระทรวงจะสนับสนุนให้พยาบาลเหล่านี้ได้ศึกษาและสอบใหม่อีกครั้ง 

เฮอร์โบซา ระบุว่า พยาบาลวิชาชีพในประเทศกำลังสมองไหล มีการแห่ลาออกไปทำงานต่างประเทศที่ให้ค่าตอบแทนสูงกว่า โดยมีการประเมินว่าในปี 2564 มีพยาบาลวิชาชีพของฟิลิปปินส์ที่มีใบอนุญาต ทำงานอยู่ต่างประเทศถึง 51% ขณะเดียวกันก็มีพยาบาลที่สอบใบอนุญาตไม่ผ่านอีกราว 1 หมื่นคน ซึ่งหากสามารถนำพยาบาลที่สอบไม่ผ่านมาทำงานดูแลผู้ป่วยได้ จะช่วยส่งเสริมและแก้ปัญหาการขาดแคลนบุคลากรที่ดูแลผู้ป่วยได้อย่างมาก 

อย่างไรก็ตาม หากแผนการนี้ไม่สำเร็จ กระทรวงสาธารณสุขฟิลิปปินส์ จำเป็นต้องลดขนาดโรงพยาบาลของรัฐที่ขาดแคลนพยาบาลลง เช่น จาก 100 เตียง เป็นขนาด 60 เตียง รวมไปถึงอาจไม่ต่อใบอนุญาตให้กับโรงพยาบาลเครือข่ายที่เข้าร่วมกับรัฐ หากจัดหาพยาบาลได้ไม่เพียงพอ 

ขณะที่ จอยเซลีน อันดาโม (Jocelyn Andamo) เลขาธิการสหภาพพยาบาลฟิลิปปินส์ (Filipino Nurses United: FNU) กล่าวว่า แนวทางของรัฐบาลอาจเพิ่มความเสี่ยงให้กับผู้ป่วย ซึ่งหากจะจ้างพยาบาลที่สอบไม่ผ่านใบอนุญาตเพื่อแก้ปัญหา ควรให้พยาบาลเหล่านี้มาเป็นผู้ช่วยพยาบาลก่อน หลังจากสอบผ่านได้ใบอนุญาตแล้วจึงบรรจุตำแหน่ง

นอกจากนี้ รัฐบาลยังพยายามไม่มากพอในการปรับขึ้นค่าตอบแทนของพยาบาลในโรงพยาบาลรัฐให้สอดคล้องกับค่าครองชีพที่พุ่งสูงขึ้น โดยในเดือน เม.ย. ฟิลิปปินส์มีอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 6.6% ซึ่งสูงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้พยาบาลต้องหารายได้เสริมทั้งการขายของออนไลน์ รวมไปถึงการรับจ้างทำงานกะพิเศษในโรงพยาบาลอื่น 

จากรายงานของ IPrice ที่จัดเก็บข้อมูลค่าครองชีพในภูมิภาคอาเซียน ระบุว่า พยาบาลฟิลิปปินส์ได้ค่าจ้างต่ำสุดในภูมิภาค โดยพยาบาลเริ่มต้นจะอยู่ที่ 14,942 เปโซต่อเดือน หรือประมาณ 273 ดอลลาห์สหรัฐฯ (8,100 บาท) และพยาบาลที่มีประสบการณ์จะได้เงินเดือนมากสุดเฉลี่ยที่ประมาณ 40,000 เปโซต่อเดือน หรือประมาณ 726 ดอลลาห์สหรัฐ (2.1 หมื่นบาท) ซึ่งน้อยกว่าพยาบาลเวียดนามถึง 57% 

“ตั้งแต่ปี 2564 โรงพยาบาลรัฐได้ปรับอัตราค่าตอบแทนพยาบาลเพิ่มขึ้นเล็กน้อย คือ 36,619 เปโซต่อเดือน (669 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 2.3 หมื่นบาท) แม้ว่าพยาบาลหนึ่งคนจะสามารถดูแลผู้ป่วยได้มากถึง 50 คนต่อวัน และเมื่อเทียบกับโรงพยาบาลเอกชนซึ่งพยาบาลหนึ่งคนดูแลผู้ป่วยเพียง 8 คนก็ตาม” เลขาธิการ FNU กล่าว

อันดาโม ระบุว่า ในเดือน ก.ย. 2565 FNU ได้ร่วมกับ ฟรานซ์ แคสโตร (France Castro) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฟิลิปปินส์ ในการยื่นเรื่องไปยังรัฐบาล เพื่อให้ปรับค่าตอบแทนพยาบาลวิชาชีพทั่วประเทศ เริ่มต้นที่ 5 หมื่นเปโซ หรือประมาณ 2,962 ดอลลาห์สหรัฐ (8.8 หมื่นบาท) ซึ่งยังห่างไกลจากค่าตอบแทนพยาบาลในประเทศอื่นๆ แต่ก็เชื่อว่าจะช่วยบรรเทาสถานการณ์ขาดแคลนพยาบาลในฟิลิปปินส์ได้ 

อีกหนึ่งแนวทางที่ FNU เสนอนอกเหนือไปจากการปรับค่าตอบแทนเพื่อป้องกันไม่ให้พยาบาลฟิลิปปินส์ลาออกไปทำงานต่างประเทศ คือ รัฐบาลต้องใส่ใจในการสร้างระบบการทำงานที่ช่วยให้พยาบาลสามารถมีสมดุลระหว่างการทำงานและชีวิตส่วนตัว รวมไปถึงปรับปรุงสภาพแวดล้อมในสถานพยาบาล โรงพยาบาลให้มีความเหมาะสมกับการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์

อ้างอิง 
https://asia.nikkei.com/Business/Health-Care/Philippines-to-hire-unlicensed-nurses-as-shortages-bite