ผู้ป่วยมะเร็งปลื้ม ใช้ 'สิทธิบัตรทอง' รักษาตัว ไม่ต้องเสียเงิน

ผู้ป่วยมะเร็งปลื้มใช้สิทธิบัตรทองรักษาตัวไม่ต้องเสียเงิน เผยเคยใช้สิทธิอื่นต้องใช้เงินตัวเองสำรองจ่ายไปก่อน แต่เปลี่ยนมาใช้บัตรทองแล้วไม่ต้องสำรองจ่ายใดๆ ทั้งสิ้น แถมหมอ-พยาบาล ดูแลเท่าเทียมไม่ต่างจากผู้ป่วยที่จ่ายเงินเอง

นางพิมพาภัทร์ กีรติพัฒน์ธำรง ผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านม กล่าวถึงความประทับใจในการใช้สิทธิบัตรทองในการรักษาโรคมะเร็ง โดยระบุว่า ก่อนหน้านี้ตนไม่ได้ใช้สิทธิบัตรทอง แต่เมื่อได้มาใช้สิทธิแล้วรู้สึกดี เพราะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ อีกทั้งยังได้รับการบริการที่เท่าเทียมกับผู้ป่วยที่จ่ายเงินเอง

นางพิมพาภัทร์ กล่าวว่า ในช่วงที่ตนอายุ 32 ปี ขณะนั้นทำงานเป็นครูโรงเรียนเอกชนและเพิ่งคลอดลูกได้ 6 เดือน อยู่ๆ รู้สึกปวดบริเวณเต้านมจึงไปตรวจที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งและพบว่ามีก้อนเนื้อบางอย่าง แพทย์จึงได้ส่งต่อไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลรามาธิบดี เมื่อไปที่โรงพยาบาลรามาธิบดี แพทย์ได้เจาะชิ้นเนื้อไปตรวจ และใช้เวลาไม่ถึงสัปดาห์ก็ทราบผลว่าเป็นมะเร็ง จากนั้นอีก 1 สัปดาห์ก็วางแผนการรักษาและรับการผ่าตัดในสัปดาห์ถัดไปเลย

“ขณะนั้นสิทธิการรักษายังเป็นสิทธิของครูเอกชน มีวงเงินการรักษา 1.5 แสนบาท/ปี แต่ต้องใช้เงินส่วนตัวสำรองจ่ายไปก่อนแล้วค่อยเบิกคืนภายหลัง จากนั้นหลังผ่าตัดแล้ว 1 เดือน ก็เข้ารับการรักษาต่อด้วยเคมีบำบัด ซึ่งก็ยังใช้สิทธิการรักษาของครูเอกชนอยู่ แต่เมื่อจบคอร์สการรักษาด้วยเคมีบำบัด วงเงินรักษาพยาบาลที่มีสิทธิอยู่ไม่พอแล้ว แพทย์จึงแนะนำให้ใช้สิทธิบัตรทองเพราะรักษาฟรี ด้วยเหตุนี้จึงลาออกจากการเป็นครูโรงเรียนเอกชน เพื่อมาใช้สิทธิบัตรทองตามนโยบาย cancer anywhere” นางพิมพาภัทร์ กล่าว

นางพิมพาภัทร์ กล่าวต่อไปว่า หลังจากทำเคมีบำบัดแล้ว ขั้นต่อไปก็รับการฉายแสงเนื่องจากพบว่ามะเร็งลุกลามไปยังต่อมน้ำเหลือง จึงต้องฉายแสงเพื่อควบคุมเนื้อร้ายไม่ให้ลุกลามไปยังส่วนอื่นๆ ของร่างกาย ซึ่งในขั้นตอนการฉายแสงจนกระทั่งจบคอร์ส จนมาถึงขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการติดตามอาการและทานยาต่อเนื่อง 5 ปี ตนใช้สิทธิบัตรทองและไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ

“ก่อนหน้านี้ไม่เคยใช้สิทธิบัตรทองเลย ตอนเริ่มทำงานใช้สิทธิประกันสังคม พอเป็นครูก็ใช้สิทธิครู พอได้มาใช้สิทธิบัตรทองก็รู้สึกโอเคมาก เพราะตอนใช้สิทธิครูเอกชน ต้องใช้เงินส่วนตัวสำรองจ่ายไปก่อนแล้วค่อยไปเบิกคืนทีหลัง แต่บัตรทองไม่ต้องสำรองเงินใดๆทั้งสิ้น และได้รับการบริการ ได้รับความสะดวกสบายเท่ากับตอนที่จ่ายเงินเอง แต่ไม่ทราบว่าโรงพยาบาลอื่นจะเป็นแบบนี้หรือไม่ แต่ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี แพทย์และพยาบาลดูแลผู้ป่วยเหมือนกันทุกคนไม่ว่าจะใช้บัตรทองหรือจ่ายเงินเอง รู้สึกโอเคมาก ตอนนี้กลับมาทำงานเอกชนแล้วแต่ก็ยังขอใช้บัตรทองต่อไป” นางพิมพาภัทร์ กล่าว