ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ผู้เชี่ยวชาญด้านดุลยภาพการออมและการลงทุน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เผย ขณะนี้กำลังผลักดันให้เกิด ‘คกก. บำเหน็จบำนาญ’ เพื่อเป็นกลไกดูแลบำนาญผู้สูงอายุ เน้น ‘บูรณาการกองทุนการออม-ให้ ปชช. มีส่วนร่วม’ ‘ป้องกันเกิดภาระงบประมาณ’’


นางนวพร วิริยานุพงศ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านดุลยภาพการออมและการลงทุน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง เปิดเผยในช่วงหนึ่งของการเสวนานโยบายสาธารณะ (Policy Dialogue) ครั้งที่ 1 หัวข้อ “ไทยพร้อมยัง…. ที่จะมีหลักประกันรายได้เพื่อคุณภาพชีวิตเมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ ที่จัดขึ้นโดย สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) ร่วมกับสำนักงานพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ (IHPP) ตอนหนึ่งว่า ระบบหลักประกันรายได้ของประเทศไทยที่มีอยู่นั้น อยู่ในความรับผิดชอบของหลายหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของสวัสดิการที่รัฐให้ฝ่ายเดียว การออมภาคบังคับ หรือการออมภาคสมัครใจ โดยสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงในการดำเนินนโยบายมี 3 ด้าน คือ 1. ความครอบคลุม ทั่วถึงประชากรทุกกลุ่ม 2. ความเพียงพอ เป็นจำนวนเงินที่พอใช้หลังเกษียณ 3. ความยั่งยืน ไม่กระทบกับระบบการเงินการคลัง

2

นางนวพร กล่าวอีกว่า ทางกระทรวงการคลังกำลังผลักดันให้มีคณะกรรมการนโยบายบำเหน็จบำนาญระดับชาติ ที่จะมาทำหน้าที่ในการดูแลเรื่องหลักประกันรายได้หลังเกษียณของประชาชน โดยได้มีการเสนอร่าง พ.ร.บ. และได้รับการเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) รวมถึงผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการกฤษฎีกาเรียบร้อยแล้ว กำลังรอเพื่อเข้าสู่กระบวนการทางรัฐสภาต่อไป

ทั้งนี้ คณะกรรมการนโยบายบำเหน็จบำนาญระดับชาติ จะมีบุคลากรที่ประกอบด้วย นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และผู้บริหารในแต่ละกระทรวงที่เกี่ยวข้องมาร่วมเป็นคณะกรรมการ โดยจะมุ่งเน้นไปที่การบูรณาการกองทุนการออมในแต่ละกองทุน รวมถึงเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ หรือเงินชราภาพที่ประชาชนควรจะได้รับในภาพรวม เช่น คนหนึ่งคนเมื่อถึงวัยเกษียณแล้วควรจะได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐ และมีส่วนร่วมในการออมจำนวนเท่าไหร่จึงจะเพียงพอต่อการมีคุณภาพชีวิตที่ดี และไม่เป็นภาระทางการเงินการคลังในระยะยาว

“ร่าง พ.ร.บ.คณะกรรมการนโยบายบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ ตั้งเป้าจะให้มีคณะกรรมการนโยบายระดับชาติ เข้ามาบูรณาการทุกกองทุนที่เกี่ยวข้องกับการดูแลรายได้ประชาชนหลังเกษียณ ให้แต่ละกองทุนมีความสอดคล้องกัน เพื่อให้ภาพรวมสุดท้ายประชาชนมีรายได้หลังเกษียณเพียงพอ และไม่เป็นภาระทางการคลังในระยะยาว” นางนวพร กล่าว