ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ส.ส. เขตจอมทอง พรรคภูมิใจไทยเผย ตั้งแต่เดือน ต.ค. เป็นต้นมา ได้ช่วยประสานแก้ปัญหาให้ผู้มีสิทธิบัตรทองที่ได้รับผลกระทบจากการยกเลิกสัญญา 9 โรงพยาบาลเอกชนแล้วนับร้อยราย คาดยังมีตกค้างอีกมาก จะได้ประสาน สปสช. หาทางออกให้


นายโชติพัฒน์ เตชะโสภณมณี ส.ส. กทม. พรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า จากกรณีที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ยกเลิกสัญญากับโรงพยาบาลเอกชน 9 แห่ง เนื่องจากเบิกจ่ายงบประมาณไม่ถูกต้องโดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2565 ที่ผ่านมา และมีประชากรสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) ได้รับผลกระทบประมาณ 2 แสนรายนั้น ในพื้นที่เขตจอมทองและเขตธนบุรีที่ตนเป็น ส.ส. รวมถึงพื้นที่ใกล้เคียง มี 1 โรงพยาบาลที่ถูกยกเลิกสัญญาคือโรงพยาบาลบางมด ทำให้ประชาชนสิทธิบัตรทองโดยเฉพาะผู้สูงอายุได้รับผลกระทบในลักษณะที่ถูกย้ายไปรับบริการกับหน่วยบริการอื่นที่อยู่ห่างไกล ทำให้ผู้สูงอายุไม่สะดวกไปรับบริการ ไม่ว่าจะเป็นด้านกายภาพที่อายุมากเดินทางไม่ไหวหรือไม่มีทุนทรัพย์ที่จะเดินทางไปหน่วยบริการ

“ทุกวันจันทร์-อังคาร และวันที่ไม่ได้ประชุมสภา ผมจะลงพื้นที่หรือจัดกิจกรรมเป็นประจำ ทุกครั้งก็จะประชาสัมพันธ์ให้ผู้มีสิทธิบัตรทองที่ได้รับผลกระทบ ที่ถูกย้ายไปอยู่โรงพยาบาลไกลๆ ให้มาแจ้งได้ เพราะชาวบ้านเขาทราบว่าอยู่พรรคภูมิใจไทยซึ่งมีท่านอนุทิน ชาญวีรกูล เป็น รมว.สาธารณสุข ซึ่งมีความห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบ และมอบให้ สปสช.ดูแล ผมในฐานะ สส.จึงมาช่วยประสานเพิ่มเติม และได้รับการจัดการที่ดีจาก สปสช.และสายด่วน 1330 เราก็พอจะช่วยประสานงานให้ได้ ทำให้มีชาวบ้านมาแจ้งปัญหาเป็นระยะ บางรายข่าวสารไปไม่ถึงเขา ไม่ทราบว่าจะต้องดำเนินการต่ออย่างไร ผมก็รับเรื่องแล้วประสา สปสช.และสายด่วน สปสช. 1330 ซึ่งก็ได้รับการจัดการที่ดี แก้ปัญหาให้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนได้” นายโชติพัฒน์ กล่าว

นายโชติพัฒน์ กล่าวต่อไปว่า จากเดือน ต.ค. จนถึง ธ.ค. 2565 มีประชาชนขอคำแนะนำและตนได้ช่วยประสานกับ สปสช. แล้วมากกว่า 100 ราย เบื้องต้นมีศูนย์บริการสาธารณสุข 29 เป็นหน่วยบริการปฐมภูมิให้ ส่วนหน่วยบริการรับส่งต่อพยายามทำเรื่องย้ายมาขึ้นทะเบียนกับโรงพยาบาลไอเอ็มเอช ธนบุรี ซึ่งอยู่ใกล้พื้นที่เขตจอมทอง เพื่อให้สามารถเดินทางไปรับบริการได้สะดวกมากขึ้น

อย่างไรก็ดี คาดว่าจำนวนผู้มีสิทธิบัตรทองที่ได้รับผลกระทบยังมีอีกมาก แนวทางที่ดำเนินการขณะนี้คือพยายามเข้าถึงหมู่บ้าน/ชุมชน ให้มากที่สุดเพื่อประชาสัมพันธ์ข้อมูล รวมทั้งแจ้งผ่านผู้นำชุมชนต่างๆ ให้ประสานเข้ามาหากประชาชนในชุมชนมีปัญหาการเข้าถึงบริการ

“รู้สึกดีใจที่ได้ช่วยเหลือประชาชน ประชาชนส่วนมากในเขตจอมทองมีฐานะยากจน มีหนี้สินต้องหาเช้ากินค่ำ ถ้าเราอยู่ในสภาวะแบบเขา เราก็ไม่มีทางออก การได้ช่วยเหลือพวกเขาก็ทำให้รู้สึกภูมิใจ ไม่ได้คิดว่าจะต้องได้คะแนนเสียงกลับมา” นายโชติพัฒน์ กล่าว