ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เผยแพร่แนวทางให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มกระตุ้น สำหรับเด็กอายุ 5-11 ปี กระตุ้นภูมิคุ้มกันให้เพียงพอ-ป้องกันเจ็บป่วยรุนแรงโดยเฉพาะสายพันธุ์โอมิครอน 


กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เผยแพร่แนวทางการให้บริการวัคซีน-19 เข็มกระตุ้นสำหรับเด็กอายุ 5-11 ปี จากมติที่ประชุมคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ครั้งที่ 5/2565 เมื่อวันที่ 2 ส.ค. 2565 และที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เมื่อวันที่ 8 ส.ค. 2565 เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันในกลุ่มเป้าหมายให้สูงเพียงพอต่อการป้องกันการเจ็บป่วยรุนแรงและการระบาดของโรคโควิด-19 ในเด็กอายุ 5-11 ปี 

สำหรับตอนหนึ่งของแนวทางระบุว่า การให้วัคซีนโควิด-19 ในเด็กอายุ 5-11 ปี เริ่มตั้งแต่เดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งจากผลการศึกษาระดับภูมิคุ้มกันในเด็กที่ได้รับวัคซีนพบว่าไม่ว่าจะฉีดด้วยสูตรไขว้วัคซีนซิโนแวคกับวัคซีนไฟเซอร์ 2 เข็ม สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้สูง แต่ระดับภูมิคุ้มกันลดต่ำลงภายหลังได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 เป็นระยะเวลา 3 เดือนขึ้นไป ซึ่งอาจะไม่เพียงพอต่อการป้องกันโรคโดยเฉพาะสายพันธุ์โอมิครอน และเมื่อฉีดกระตุ้นเป็นเข็มที่ 3 จะทำให้ระดับภูมิคุ้มกันสูงขึ้นมาก และป้องกันสายพันธุ์ที่กลายพันธุ์ได้ดีขึ้น โดยจากการศึกษาเปรียบเทียบในผู้ใหญ่พบว่า วัคซีนชนิดไฟเซอร์กระตุ้นภูมิคุ้มกันได้สูงกว่าวัคซีนเชื้อตาย ซึ่งมีอัตราการเกิดอาการข้างเคียงมากกว่าวัคซีนเชื้อตาย แต่ไม่รุนแรง อย่างไรก็ตามการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นทุกชนิดสามารถลดความรุนแรงของโรคได้ดี

ทั้งนี้ สำหรับแนวทางฯ ยังระบุถึงการพิจารณาการให้วัคซีนโควิด-19 เข็มกระตุ้นในเด็กอายุ 5-11 ปี ทั้งที่เคยมีประวัติและไม่มีประวัติเชื้อโควิด-19 แผนบริหารจัดการวัคซีนโควิด-19 เข็มกระตุ้นสำหรับเด็กอายุ 5-11 ปี ระยะเวลาดำเนินการ พื้นที่ดำเนินการ ฯลฯ

อ่าน แนวทางให้วัคซีนโควิด ‘เข็มกระตุ้น’ เด็กอายุ 5-11 ปี ได้ที่นี่