ผลหารือแก้ปม ‘บุคลากรถ่ายโอน’ ระหว่าง ‘สมาคม อบจ.-รองอธิบดี สถ.-สธ.’ 9 ต.ค. 2566 ได้ข้อสรุปเบื้องต้นชัด 8 ขั้นตอน สธ. ให้รวมรายชื่อที่ไม่ตรงกันส่งคณะอนุกรรมการบริหารภารกิจถ่ายโอนฯ ตัดสินว่าจะได้ถ่ายโอนหรือไม่ พร้อมกับให้ สถ. ออกหนังสือซักซ้อม อบจ. ให้เข้าใจตรงกัน
นายกิตติชัย เอ่งฉ้วน รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ (อบจ.) เปิดเผยกับ “The Coverage” ถึงการหารือเพื่อแก้ไขปัญหาการถ่ายโอนโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ไปยังองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เมื่อวันที่ 9 ต.ค. 2566 ระหว่างสมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น (สถ.) และกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ว่า ได้มีการพูดคุยกันในหลายประเด็นสำคัญ โดยเฉพาะเรื่องรายชื่อบุคลากรที่ไม่ตรงกัน ในส่วนที่เป็นปัญหา คือบุคลากรประเภทที่ขอถ่ายโอนมาจาก รพ.สต. ที่ไม่ได้ถ่ายโอน และ บุคลากรจาก 5 หน่วยงานคือ สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ (สสอ.) สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) โรงพยาบาลชุมชน โรงพยาบาลทั่วไป และโรงพยาบาลศูนย์ ในปี 2567
ทั้งนี้ ได้มีการสรุปในเบื้องต้น ให้ดำเนินการใน 8 ขั้นตอนคือ 1. ให้ อบจ. นำรายชื่อที่ได้รับเป็นไฟล์ excel จากสำนักงานคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) เสนอขออนุมัติรับโอนจากที่ประชุม คณะกรรมการข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ก.จ.จ.) 2. เมื่อได้รับการอนุมัติจากที่ประชุม ก.จ.จ. แล้ว ให้ทาง อบจ. ออกคำสั่งรับโอน
3. ส่งคำสั่งรับโอนทั้งหมดกลับไปให้กับทาง สธ. 4. ให้ทาง สธ. รวบรวมรายชื่อเสนอ อ.กพ.สธ. แต่หากทาง สธ. เห็นว่ารายชื่อบางส่วนยังไม่ตรงกันก็ให้รวบรวมส่วนที่ไม่ตรงกันส่งกลับไปที่ ก.ก.ถ. 5. เมื่อทาง ก.ก.ถ. ได้รับข้อมูลรายชื่อแล้วก็จะนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมคณะอนุกรรมการบริหารภารกิจการถ่ายโอนฯ เพื่อพิจารณาตัดสินว่าควรจะถ่ายโอนได้หรือไม่ 6. ทาง ก.ก.ถ. ส่งมติพร้อมกับรายชื่อกลับไปยัง สธ. 7. ทาง สธ.นำรายชื่อทั้งหมดเสนอ อ.ก.พ.สธ. เพื่อขออนุมัติตัดโอน 8. แจ้งกลับไปยัง สสจ. เพื่อแจ้งต่อ อบจ. เพื่อดำเนินการในขั้นตอนของ อบจ. ต่อไป
นายกิตติชัย กล่าวว่า ส่วนในการดำเนินการตามขั้นตอนดังกล่าว ได้ขอให้ทาง สถ. ออกหนังสือซักซ้อมอย่างเป็นทางการไปยัง อบจ. อีกครั้ง ซึ่งในวันนั้นมี นายศิริพันธ์ ศรีกงพลี รองอธิบดี สถ. เข้าร่วมประชุมด้วย เพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกัน เนื่องจากขณะนี้ อบจ. ยังมีความสับสนในแนวการดำเนินการที่ถูกต้องอยู่ เพราะแต่ละฝ่ายก็สั่งมาคนละแบบแถมยังมีข้อมูลที่ยังไม่ตรงกันอีก ประกอบกับขณะนี้ ทาง สสจ. แต่ละจังหวัดก็ได้มีการเรียกตัวบุคลากรทั้ง 2 ประเภทดังกล่าวให้กลับไปทำงานที่เดิมทั้งๆที่ไปรายงานตัวเข้าทำงานกับ อบจ. เรียบร้อยแล้ว ก็ยิ่งทำให้เกิดความสับสนในการปฎิบัติอย่างยิ่ง
นายกิตติชัย กล่าวต่อไปว่า จากความไม่ชัดเจนเรื่องรายชื่อทำให้ อบจ. หลายแห่งไม่มั่นใจเรื่องการนำรายชื่อแจ้งเข้า ก.จ.จ. เพื่ออนุมัติและออกคำสั่งรับโอน เพราะไม่แน่ใจว่าต้องใช้รายชื่อส่วนใด ฉะนั้น จึงทำให้ อบจ. ยังไม่สามารถออกคำสั่งแล้วส่งกลับไปยัง สธ. ได้
นายกิตติชัย กล่าวอีกว่า เป็นที่น่าสังเกตุว่าในการถ่ายโอนภารกิจ รพ.สต. เมื่อปี 2565 ได้มีการสรุปรายชื่อเข้าสู่ที่ประชุม อ.ก.พ.สธ. เพื่อขออนุมัติตัดโอนตั้งแต่ เม.ย. 2565 แล้วให้มามีผลในวันที่ 2 ต.ค. 65 ซึ่งทุกอย่างก็ได้ดำเนินไปด้วยดีไม่มีปัญหาอย่างเช่นปีนี้ ซึ่งตอนนี้ก็ล่วงเลยเข้าปีงบฯ 2567 แล้วแต่กระบวนการตัดโอนบุคลากรในการถ่ายโอนรอบใหม่ยังไม่เกิดขึ้น และทุกอย่างผิดขั้นตอนไปหมด
ดังนั้น ในการดำเนินการในขั้นตอนต่างๆ จะต้องให้ผลย้อนหลังไปถึงวันที่ 2 ต.ค. 2566 ที่ผ่านมา เพราะเป็นวันที่บุคลากรถ่ายโอนได้ไปรายงานตัวปฏิบัติงานกับ อบจ. แล้ว และที่น่าเห็นใจก็คือบุคลากรเหล่านี้ได้เก็บข้าวของ อำลา เลี้ยงส่งจากที่ทำงานเดิม เพื่ออยู่บ้านหลังใหม่แล้ว แต่อยู่ๆ ทาง สสจ. ก็เรียกตัวกลับให้ไปทำงานที่เดิม แถมข่มขู่ว่าถ้าไม่กลับไปก็จะถือว่าเป็นการขาดราชการ จะต้องถูกดำเนินการทางวินัย
รวมถึงมีการสอบถามว่าจะเปลี่ยนใจไม่ถ่ายโอนหรือไม่ ถ้าเปลี่ยนใจจะหาทางช่วยเหลือซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อขวัญและกำลังใจของผู้ปฎิบัติงานเป็นอย่างมากซึ่งเมื่อได้ยินได้ฟังแล้วรู้สึกหดหู่ใจมาก เพราะสิ่งเหล่านี้ไม่ได้เกิดมาจากความผิดของพวกเขา จึงขอฝากให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้ถอดบทเรียนของความผิดพลาดและปัญหาอุปสรรคต่างๆ เพื่อจะได้ไม่เกิดปัญหาในปีต่อไป
- 5969 views