ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เผย บุคลากร รพ.สต.ที่ถ่ายโอนต้องการย้ายกลับกระทรวงฯ กว่า 400 คน เตรียมหารือแนวทางให้ความช่วยเหลือ 20 กรกฎาคมนี้


นพ.พงศ์เกษม ไข่มุกด์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีการถ่ายโอนโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ไปยังองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) และมีบุคลากรที่ถ่ายโอนบางส่วนเรียกร้องขอย้ายกลับมากระทรวงสาธารณสุข ว่า สธ.ได้รับทราบปัญหาข้อเรียกร้องของบุคลากรที่ถ่ายโอนไปต้องการขอโอนกลับประมาณกว่า 400 คน และยังมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ 

อย่างไรก็ตาม กรณีนี้ต้องเป็นการโอนกลับทั้งตัวบุคคลและตำแหน่ง เนื่องจากขณะนี้ สธ. ยังขาดอัตรากำลังจำนวนมาก ประกอบกับบุคลากรที่ถ่ายโอนไปส่วนหนึ่งเป็นบุคลากรที่มีความชำนาญจากโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ ที่ถูกตัดตำแหน่งไปโดยอาศัยเงื่อนไขคู่มือการถ่ายโอนฯ 

ทั้งนี้ จากการติดตามของคณะอนุกรรมการวิชาการและติดตามประเมินผลการถ่ายโอนภารกิจฯ พบว่า บุคลากรสาธารณสุขที่ต้องการย้ายกลับมา สธ. มีเหตุผลดังนี้ 

1. ไม่ได้ตำแหน่งตามที่คาดหวังไว้ในตอนแรก และความก้าวหน้าของวิชาชีพไม่มีความชัดเจน 2. ได้รับค่าตอบแทนน้อยกว่า เช่น การพิจารณาความดีความชอบได้น้อยกว่าเดิมและมีความเลื่อมล้ำในการพิจารณามาก, ค่าตอบแทน ฉบับ 11 ไม่ได้หรือได้ไม่ตรงตามกำหนด 

3. สวัสดิการรักษาพยาบาลเปลี่ยนเป็นสิทธิพนักงานส่วนท้องถิ่น ซึ่งไม่เท่ากับสิทธิข้าราชการเดิม 4. ไม่มีองค์กรมารองรับสิทธิในการปฏิบัติงานด้านการรักษาพยาบาล ทำให้ไม่มั่นใจและส่งผลกระทบต่อผู้รับบริการ 5. ขาดแคลนทรัพยากรในการให้บริการ เนื่องจาก อบจ.จัดหาให้ไม่ครบถ้วน เช่น วัคซีน ทำให้ประชาชนเสียโอกาสในการรับบริการ

6. ขาดการส่งเสริมบทบาทด้านการส่งเสริมป้องกันโรค ซึ่งเป็นภารกิจหลักของ รพ.สต. เช่น การคัดกรองโรคมะเร็ง คัดกรองพัฒนาการเด็ก คัดกรองด้านสุขภาพจิต รวมถึงการพัฒนา care giver ที่ดูแลผู้สูงอายุ 

นพ.พงศ์เกษม กล่าวว่า สธ. พร้อมช่วยเหลือบุคลากรที่ขอโอนกลับ แต่ต้องดำเนินการบนความถูกต้องของระเบียบ ส่วนการถ่ายโอนรอบปีงบประมาณ 2567 ที่ประชุมคณะอนุกรรมการบริหารภารกิจถ่ายโอนด้านสาธารณสุข และคณะอนุกรรมการประสานงานการกระจายอำนาจให้แก่ อปท. เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคมที่ผ่านมา ให้ดำเนินการต่อ โดยยึดความพร้อมของหน่วยงานที่จะถ่ายโอนและข้อตกลงเดิมเดือนพฤศจิกายน 2565 ที่ไม่ให้บุคลากรที่ไม่เกี่ยวข้องกับภารกิจด้านปฐมภูมิถ่ายโอน โดย รพ.สต.ที่จะถ่ายโอนต้องมีบุคลากรสมัครใจถ่ายโอนไปมากกว่าร้อยละ 70 เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการบริการเหมือนที่ผ่านมา 

รวมทั้งมีการรับฟังเสียงของประชาชนในพื้นที่ และมีคนกลาง เช่น ผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด หรือปลัดจังหวัด เป็นประธานคณะกรรมการสุขภาพพื้นที่ โดยจะหารืออีกครั้งในวันที่ 20 กรกฎาคม 2566 นี้