ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สธ. ร่วมกับ สปสช. ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย และสถาบันวัคซีนแห่งชาติ ลงนามประกาศความร่วมมือปรับสูตรการให้วัคซีนโปลิโอในเด็กเป็น “2 IPV + 3 OPV” หรือฉีด 2 เข็ม หยอด 3 ครั้ง เพื่อเสริมภูมิคุ้มกันให้เด็กไทยลดความเสี่ยงพิการและเสียชีวิตจากโรคโปลิโอที่อาจแพร่ระบาดเข้ามาจากประเทศอื่น 


นพ.ณรงค์ สายวงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พร้อมด้วย นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค นพ.นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ ศ.นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา ประธานราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย และ ภก.คณิตศักดิ์ จันทราพิพัฒน์ ผู้แทนสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ร่วมลงนามความร่วมมือ และประชุมมอบนโยบายและชี้แจงโครงการความร่วมมือขับเคลื่อนการกวาดล้างโรคโปลิโอตามพันธสัญญานานาชาติ 

2

นพ.ณรงค์ กล่าวว่า เป็นเวลากว่า 3 ทศวรรษ ที่กระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมมือกับทุกภาคส่วนกวาดล้างโรคโปลิโอให้หมดไปจากประเทศไทย จนเป็นผลสำเร็จไม่พบผู้ป่วยโปลิโอตั้งแต่ปี 2540 เป็นต้นมา ทั้งนี้ ประเทศไทยยังคงมุ่งมั่นที่จะร่วมมือกับประชาคมโลกในการกวาดล้างโรคโปลิโอให้หมดไปตามพันธสัญญานานาชาติที่ดำเนินการร่วมกับองค์การอนามัยโลก ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมถึงพ่อแม่ผู้ปกครองที่จะนำบุตรหลานมารับวัคซีนป้องกันโรคโปลิโอตามกำหนด โดยตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2566 เป็นต้นไป จะมีการปรับสูตรการให้วัคซีนโปลิโอในเด็กใหม่เป็น 2 IPV + 3 OPV ประกอบด้วย การฉีดวัคซีนโปลิโอ (IPV) 2 เข็ม เมื่ออายุ 2 เดือน และ 4 เดือน และหยอดวัคซีนโปลิโอ (OPV) เมื่ออายุ 6 เดือน, 1 ขวบครึ่ง และ 4 ขวบ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันเด็กไทยให้ปลอดภัยจากโรคโปลิโอที่อาจแพร่ระบาดเข้ามาจากประเทศอื่นได้

3

นพ.ธเรศ กล่าวว่า ปัจจุบันยังคงพบการระบาดของโรคโปลิโอสายพันธุ์ธรรมชาติในบางประเทศ และในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา การระบาดของโรคโปลิโอสายพันธุ์วัคซีนกลายพันธุ์สายพันธุ์ที่ 1, 2, 3 โดยเฉพาะสายพันธุ์ที่ 2 มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นในหลายประเทศ รวมถึงประเทศใกล้เคียงกับประเทศไทย จึงมีความเสี่ยงสูงที่จะพบเชื้อเข้ามาระบาดในประเทศไทยได้อีกครั้ง โดยโรคโปลิโอเป็นโรคติดต่อจากเชื้อไวรัสที่ก่อให้เกิดความพิการและเสียชีวิต ปัจจุบันยังไม่มียารักษาให้หายขาด แต่สามารถป้องกันได้ด้วยวัคซีน ซึ่งประเทศไทยได้กำหนดให้เป็นวัคซีนพื้นฐานสำหรับเด็กทุกคนตามแผนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ตั้งแต่ปี 2520 เมื่อมีการปรับสูตรการให้วัคซีนใหม่ จึงจัดให้มีการชี้แจงแนวทางแก่บุคลากรทางการแพทย์ทั่วประเทศ เพื่อทำความเข้าใจและนำไปสื่อสารกับผู้ปกครองให้นำบุตรหลานมารับวัคซีนได้ถูกต้องตามกำหนด

3

ด้าน ภก.คณิตศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า วัคซีนพื้นฐานเป็นหนึ่งในบริการสร้างเสริมสุขภาพป้องกันโรคของประเทศที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติให้การสนับสนุนสำหรับการให้วัคซีนป้องกันโรคโปลิโอสูตร 2 IPV + 3 OPV ที่จะเริ่มในวันที่ 1 กรกฎาคม 2566 นี้ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้เปิดระบบให้หน่วยบริการต่างๆ เบิกวัคซีนให้พร้อมบริการแก่เด็กไทยทุกคนแล้ว ผู้ปกครองสามารถนำบุตรหลานเข้ารับวัคซีนได้ที่หน่วยบริการสาธารณสุขของรัฐและเอกชนในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติที่อยู่ใกล้บ้านทุกแห่ง โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย