ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

แค่มีสิทธิบัตรทอง ก็ไม่จำเป็นต้องไปใช้สิทธิอื่นในการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมแล้ว เพราะบัตรทองผ่าให้ฟรี ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรเลยตั้งแต่ต้นจนจบนี่เป็นคำยืนยันจาก นาตยา ภู่สุดแสวง ผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อมวัย 61 ปี ภายหลังเข้ารับการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าที่โรงพยาบาลบางปะอินเมื่อ เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

โรคข้อเข่าเสื่อมเป็นหนึ่งในโรคยอดฮิตของผู้สูงอายุ และพบมากในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย โดยมีสาเหตุหลักมาจากความเสี่ยงตามวัย และจะยิ่งเสี่ยงมากขึ้นถ้ามีพฤติกรรมการยกของหนักหรือมีกิจกรรมที่ต้องใช้ขาและเข่าเป็นเวลานาน

2

นาตยา หญิงวัยเกษียณที่ผลัดเปลี่ยนอาชีพมาแล้ว 3 ครั้ง ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นงานที่ต้องใช้ ‘ขา’ เป็นหลัก ทั้งการเดิน และยืน รวมถึงต้องอยู่ท่าเดิมเป็นเวลานานด้วย ทำให้มักมีอาการปวดเข่าเป็นระยะๆ จนเมื่อ 2 ปีก่อนอาการปวดลุกลามร้าวไปจนถึงสะโพก รวมถึงการเคลื่อนไหวแต่ละครั้งต้องอาศัยคนช่วยพยุง จนสุดท้ายเธอต้องหยุดการทำงานไป

เธอตัดสินใจไปเข้ารับการตรวจเพื่อหาสาเหตุของอาการ ก่อนได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคข้อเข่าเสื่อม และควรได้รับการผ่าตัดรักษา เนื่องจากแพทย์บอกว่าน้ำในเข่ารวมถึงกระดูกอ่อนไม่มีเหลือแล้ว มีเพียงกระดูก 2 ท่อนที่เสียดสีกันอันเป็นต้นเหตุของความเจ็บปวด

อย่างไรก็ดี เธอเลือกที่จะทำกายภาพบำบัดก่อนเพราะหวังว่าอาการปวดจะดีขึ้น แต่หลังจากนั้น 4 เดือนกลับไม่เป็นไปตามที่เธอคิด จึงตัดสินใจรับการรักษาผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมที่โรงพยาบาลบางปะอินผ่านสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง 30 บาท)

2

ราวกับความฝัน 3 สัปดาห์หลังจากนั้น สืบเนื่องมาจนถึงตอนนี้ ‘นาตยา’ สามารถกลับไปดำเนินชีวิตได้ปกติมากขึ้น โดยเคลื่อนไหวได้อย่างมั่นคง ตลอดจนกลับไปทำงานได้อย่างมั่นใจ

นพ.จตุรงค์ บำรุงเชาว์เกษม นายแพทย์ชำนาญการ(ออร์โธปิดิกส์) โรงพยาบาลบางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา อธิบายถึงกระบวนการรักษาว่า การผ่าตัดข้อเข่าใช้เวลาไม่นานนักหากเทียบกับการผ่าตัดในโรคอื่นๆ โดยหลังผ่าตัด 3 วันจะให้ผู้ป่วยเริ่มฝึกเดินโดยมีอุปกรณ์ช่วยพยุง และทำกายภาพบำบัดควบคู่ไปด้วย จากนั้น 2 สัปดาห์จะทำการตัดไหม ผู้ป่วยจะสามารถงอเหยียดเข่าได้ใกล้เคียงปกติ และบางรายอาจเดินได้โดยไม่ใช้อุปกรณ์ช่วยพยุงในอีก 1-2 สัปดาห์ต่อมา ส่วนอาการอักเสบจะลดลงหลังจากนั้นราว 2-3 เดือน

1

ทั้งนี้ ในการผ่าตัดรักษาเปลี่ยนข้อเข่าเทียมมีค่าใช้จ่ายอยู่ประมาณ 5 หมื่น – 1 แสนบาท แล้วแต่โรงพยาบาลที่ให้บริการ ส่วนเฉพาะค่าข้อเข่าเทียมอย่างเดียวไม่รวมการรักษาจะเฉลี่ยอยู่ที่ 4.6 หมื่นบาท ซึ่งวัสดุที่มีผลิตออกมาและใช้กันอยู่ในปัจจุบันคุณภาพไม่ต่างกันเท่าไหร่นัก

วัสดุอุปกรณ์ข้อเข่าเทียมสิทธิบัตรทองที่ครอบคลุมนั้น รับประกันได้ว่าสามารถทำให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้ อย่างไรก็ดีด้วยปัจจัยของวัสดุที่ไม่สามารถปรับสภาพฟื้นฟูได้เหมือนกระดูกจริง ถ้ามีการใช้งานเยอะก็จะมีการสึกกร่อนและเสื่อมตามระยะเวลา ทำให้โดยทั่วไปมีอายุการใช้งานประมาณ 15 ปี หลังจากนั้นผู้ป่วยจะต้องมารับการพิจารณาเพื่อผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าใหม่ นพ.จตุรงค์ กล่าว

3

นพ.ฐาปกรณ์ จิตตนูนท์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบางปะอิน กล่าวเสริมว่ามั่นใจได้ว่าการผ่าตัดรักษา รวมถึงเครื่องไม้เครื่องมือ และวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการรักษามีคุณภาพแน่นอน เพราะการจะให้บริการได้ต้องผ่านการขึ้นทะเบียนกับทางสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ก่อน ซึ่งมีการประสานงานกับราชวิทยาลัยแพทย์ออร์โธปิดิกส์แห่งประเทศไทยที่จะเป็นผู้ประเมินในด้านต่างๆ เช่น การดูแลผู้ป่วยในห้องไอซียู การดูแลผู้ป่วยในห้องผ่าตัด โดยเป็นมาตรฐานแบบเดียวกันทั้งประเทศ ไม่ว่าจะโรงเรียนแพทย์ หรือโรงพยาบาลจังหวัด

นอกจากนี้ยังบอกอีกว่าตั้งแต่ทางโรงพยาบาลเริ่มให้การรักษาผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมมาจนถึงปัจจุบัน ผู้ป่วยที่มารับบริการกว่า 60-70% เป็นสิทธิบัตรทอง ซึ่งงบประมาณที่ทางสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) จัดสรรมาเพื่อสนับสนุนการให้บริการนี้ยังเพียงพอที่จะบริหารจัดการได้

ถ้าเป็นคนไข้บัตรทองไม่ว่าจะเป็นจากใน .บางปะอิน หรือพื้นที่อื่นๆ และประสงค์จะมารับบริการ ซึ่งมีอาการที่เข้าเกณฑ์การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมตามการวินิจฉัยของแพทย์ รวมทั้งทางทีมแพทย์ของเราพร้อมให้บริการ ก็สามารถมาเข้ารับการนัดหมายเพื่อรับการรักษาได้เลยโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เพราะนโยบายและหลักเกณฑ์ของ สปสช. ครอบคลุมไว้หมดแล้วผู้อำนวยการโรงพยาบาลบางปะอิน ระบุ

2