ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ปลัด สธ. แจงฉากทัศน์ที่คาดการณ์กรณีที่ไม่ร่วมกันปฏิบัติตามมาตรการป้องกันควบคุมโรค อาจพบผู้ติดเชื้อสูงสุดถึงวันละ 30,000 ราย ย้ำให้ทุกคนร่วมกันป้องกันตนเองสูงสุดตลอดเวลา


นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงการทำแบบจำลอง หรือฉากทัศน์การระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วงหลังปีใหม่ ระบุว่า จากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนที่เพิ่มมากขึ้น สธ.จึงจัดทำฉากทัศน์การระบาดของโรคโควิด-19 ขึ้นมา 3 รูปแบบ โดยการคาดการณ์ในสถานการณ์ที่แย่ที่สุด อาจมีการติดเชื้อถึง 3 หมื่นคน และเสียชีวิต 170-180 คนต่อวัน

สำหรับสถานการณ์แย่ที่สุด คือมีการปฏิบัติตามมาตรการควบคุมป้องกันโรคได้น้อยหรือไม่ปฏิบัติเลย แต่หากปฏิบัติตามมาตรการทั้งการป้องกันตนเองสูงสุดตลอดเวลา (Universal Prevention) และมาตรการ VUCA ร่วมกับสามารถเร่งฉีดวัคซีนโควิด-19 ได้มากกว่าปกติ ซึ่งขณะนี้ สธ.กำลังเร่งฉีดกระตุ้นเข็มที่ 3 ก็จะสามารถควบคุมการระบาดภายในประเทศได้ดี ผู้ติดเชื้ออยู่ในระดับที่สามารถดูแลได้ เป็นไปตามสถานการณ์ที่ดีที่สุดที่คาดการณ์ไว้

“การทำฉากทัศน์เป็นการจำลองสถานการณ์ของการระบาดเพื่อได้เตรียมมาตรการรับมือ ซึ่งในการระบาดของเชื้อสายพันธุ์เดลตาในช่วงที่มีการผ่อนคลายมาตรการ รวมถึงการเปิดประเทศ ก็มีการทำฉากทัศน์ พร้อมออกมาตรการต่างๆ เพื่อควบคุมป้องกันโรค และพบว่าประชาชนร่วมมือกันปฏิบัติตามมาตรการควบคุมป้องกันโรคอย่างดี ทำให้สถานการณ์ผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจริงต่ำกว่าสถานการณ์ที่ดีที่สุดที่คาดการณ์ไว้” นพ.เกียรติภูมิ กล่าว

นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า ดังนั้นเพื่อไม่ให้มีผู้ติดเชื้อจำนวนมากตามฉากทัศน์ที่แย่ที่สุด ในช่วงปีใหม่นี้ขอให้ประชาชนเข้มมาตรการป้องกันตนเองสูงสุด ทั้งสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ เว้นระยะห่าง หากจำเป็นต้องไปร่วมงานที่มีคนจำนวนมาก หรือจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ ให้เลี่ยงสถานที่ที่เป็นห้องปรับอากาศระบบปิด การหมุนเวียนอากาศไม่ดี เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่โรค รวมถึงไปรับวัคซีนโควิด-19 เข็มกระตุ้น เพื่อเพิ่มภูมิต้านโรค โดยเฉพาะผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยง