
ปัจจุบัน ประเทศไทยมีระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า 3 ระบบใหญ่ ได้แก่ ระบบบัตรทอง ระบบประกันสังคม และสวัสดิการข้าราชการ เชื่อว่า ทุกชีวิตต้องข้องแวะกับระบบใดระบบหนึ่ง และระบบหลักประกันสุขภาพฯ นี้เองที่จะเป็นกำแพงพิงหลังให้กับเราตั้งแต่เกิดไปจนตาย แต่ด้วยข้อมูลที่มากอย่างล้นทะลัก มีความกระจัดกระจายและแยกส่วนกัน บางเรื่องบางราวซับซ้อนและเฉพาะทางจนยากเกินความเข้าใจ นั่นจึงไม่แปลกที่เราอาจเข้าใจเรื่องระบบหลักประกันสุขภาพฯ เพียงผิวเผิน
แต่นับจากนี้ มั่นใจได้ว่าทุกคนจะมีความเข้าใจที่ถูกต้องมากยิ่งขึ้น นั่นคือหน้าที่ของเรา ... The Coverage
The Coverage จะเป็นสื่อกลางและช่องทางการสื่อสารที่บอกเล่าเรื่องราว พาทุกท่านไปสำรวจชีวิต ติดตามแง่คิดและมุมมองของบุคคล อัพเดทข้อมูลข่าวสารไทย-เทศ ในทุกมิติที่เกี่ยวพันกับระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า เชื่อเถอะว่าจะเป็นประโยชน์ ... เชื่อเถอะว่าสำคัญสำหรับคุณ
ขอขอบคุณที่ติดตาม ขอขอบคุณที่ร่วมเดินทางไปด้วยกัน
‘อนุทิน’ ลงนามโอนเงิน กว่า 2 หมื่นล้านบาท ชดเชยค่าบริการรอจ่ายช่วงโควิด

“อนุทิน” ลงนามโอนเงินกว่า 2 หมื่นล้านบาท ชดเชยค่าบริการหน่วยบริการและสถานพยาบาลที่รอจ่าย จากการให้บริการดูแลประชาชนช่วงวิกฤตโควิด-19 เดือน พ.ค.- ส.ค. 64
นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า ตามที่ สปสช. ได้ดำเนินการขอรับงบประมาณเพิ่มเติมจาก พ.ร.ก.กู้เงินฯ สำหรับบริการโรคติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 20,829.23 ล้านบาท และได้รับการอนุมัติจาก ครม. เมื่อวันที่ 16 พ.ย.2564 ที่ผ่านมา เพื่อเป็นค่าชดเชยค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการให้บริการสาธารณสุขของหน่วยบริการหรือสถานพยาบาลในช่วงสถานการณ์วิกฤตการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ระหว่างเดือนพฤษภาคม - สิงหาคม 2564 ที่ยังรอจ่าย โดยเมื่อวันที่ 9 ธ.ค.2564 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้ลงนามอนุมัติการโอนค่าบริการดังกล่าวแล้ว ซึ่งหน่วยบริการหรือสถานพยาบาลที่รอจ่ายได้รับรับการชดเชยค่าบริการนี้
“สปสช. ต้องขอขอบคุณหน่วยบริการหรือสถานพยาบาลที่ร่วมดูแลประชาชนในช่วงสถานการณ์วิกฤติโควิด-19 ด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยโควิด-19 ที่พุ่งสูงขึ้นในช่วงเวลานั้น ทำให้งบประมาณที่ สปสช. จัดสรรเพื่อรองรับไม่เพียงพอ ทำให้มีหน่วยบริการส่วนหนึ่งต้องรอค่าบริการนี้ ซึ่ง สปสช. ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ และเราเองไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้เร่งทำเรื่องขอรับงบประมาณเพิ่มเติมเพื่อนำมาชดเชยค่าบริการนี้ และวานนี้ ท่านรองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ได้ลงนามเพื่อโอนเงินจำนวนกว่า 2 หมื่นล้านบาท เพื่อชดเชยค่าบริการรอจ่ายนี้แล้ว” เลขาธิการ สปสช. กล่าว