ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ตำรวจสอบสวนกลาง ร่วม อย.-อภ. รวบเครือข่ายจำหน่าย "ยาฟาวิพิราเวียร์" ออนไลน์ พบผู้ต้องหาสารภาพได้มาจาก รพ.เอกชน ที่สั่งซื้อ อภ. แล้วนำออกมาจำหน่ายหากำไร จากกล่องละ 1,600 นำไปขายออนไลน์ได้ถึง 4,000-8,000 บาท


กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และองค์การเภสัชกรรม (อภ.) ร่วมกันแถลงผลการปฏิบัติงาน เมื่อวันที่ 27 ต.ค. 2564 กรณีจับกุมเครือข่ายผู้ต้องหาลักลอบจำหน่ายยาฟาวิพิราเวียร์ ยี่ห้อฟาเวียร์ ทางสื่อออนไลน์โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 9 ราย พร้อมยึดยาฟาเวียร์ของกลาง จำนวน 390 กล่อง

ทั้งนี้ ผู้ต้องหาส่วนหนึ่งให้การว่า ยาดังกล่าวได้มาจากโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งสั่งซื้อในนามโรงพยาบาลจาก อภ. แล้วนำออกมาจำหน่ายเพื่อหากำไร โดยมีราคาต้นทุนอยู่ที่กล่องละ 1,600 บาท แต่เมื่อนำมาจำหน่ายทางสื่อออนไลน์ สามารถจำหน่ายได้ในราคาถึงกล่องละ 4,000-8,000 บาท

สำหรับการจับกุมดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นเป้าหมาย จำนวน 8 จุด ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) สระบุรี ปทุมธานี และนนทบุรี เมื่อวันที่ 26 ต.ค. 2564 จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 9 ราย ซึ่งและทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้งหมด พร้อมสืบสวนขยายผลถึงผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งขบวนการต่อไป

ในเบื้องต้นการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ยา พ.ศ.2510 ฐาน “ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต” ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 10,000 บาท และ พ.ร.บ.วิชาชีพ
เภสัชกรรม พ.ศ.2537 ฐาน “ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต” ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า ประชาชนควรใช้ความระมัดระวังในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์สุขภาพที่เกี่ยวข้องกับโรคโควิด-19 ไม่ว่าจะเป็นยา ผลิตภัณฑ์สมุนไพร และเครื่องมือแพทย์ ควรเลือกซื้อจากร้านขายยา หรือร้านขายอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่เชื่อถือได้

"ขอเตือนผู้ที่ลักลอบจำหน่ายผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ไม่ได้คุณภาพ หรือไม่ได้รับอนุญาตจาก อย. โดยเฉพาะการลักลอบจำหน่ายยาฟาเวียร์ทางสื่อออนไลน์ให้หยุดการกระทำดังกล่าวทันที เพราะท่านกำลังทำให้ผู้ป่วยโควิด หรือผู้ที่จำเป็นต้องใช้ยาหรือผลิตภัณฑ์สุขภาพที่เกี่ยวข้องกับโรคโควิด เสียโอกาสในการรักษาที่ถูกต้องหรือเสี่ยงแพร่เชื้อไปยังผู้อื่น" พล.ต.ท.จิรภพ กล่าว

ด้าน ภญ.สุภัทรา บุญเสริม ผู้ทรงคุณวุฒิด้านมาตรฐานผลิตภัณฑ์ด้านสาธารณสุข รักษาราชการแทนรองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า ยาฟาเวียร์ที่ผลิตโดย อภ. มีข้อบ่งใช้สำหรับการติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ที่เป็นสายพันธุ์ใหม่ หรือโรคอุบัติซ้ำจากการติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ เมื่อใช้ยาต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่ที่มีอยู่ในปัจจุบันไม่ได้ผลหรือมีประสิทธิภาพไม่เพียงพอ

ภญ.สุภัทรา กล่าวว่า เมื่อเป็นยาควบคุมพิเศษที่ต้องสั่งจ่ายและอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากต้องติดตามอาการข้างเคียงและผลการรักษาระหว่างการใช้ยา โดยเฉพาะผู้ที่มีความเสี่ยงจากผลข้างเคียงจากการใช้ยา เช่น หญิงตั้งครรภ์ หรือผู้มีโรคประจำตัวต่างๆ จึงไม่สามารถจำหน่ายให้กับประชาชนตามช่องทางทั่วไปได้

"ปัจจุบันเมื่อผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อโควิด-19 และเข้ารับการรักษาในระบบที่รัฐจัดเตรียมไว้ให้ ก็จะได้รับยาฟาวิพิราเวียร์อย่างทั่วถึงโดยไม่มีค่าใช้จ่าย จึงขอย้ำว่าอย่าซื้อยาทางสื่อออนไลน์มารับประทานเองโดยเด็ดขาด การใช้ยาที่ไม่ถูกต้องอาจทำให้เกิดเชื้อดื้อยาได้ง่าย ส่งผลให้ใช้ยาไม่ได้ผลเมื่อเกิดการติดเชื้อ เป็นเหตุให้ผู้ป่วยอาจเสียชีวิตได้ในที่สุด" ภญ.สุภัทรา กล่าว