ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ปลัดสธ.เผย ศบค.เห็นชอบคงระดับสีพื้นที่และมาตรการควบคุมโรคต่อจนถึง 30 ก.ย.นี้ ทั้งเคอร์ฟิว-ทำงานที่บ้าน-ปิดสถานที่เสี่ยง ให้ทุกจังหวัดหาพื้นที่ต้นแบบ "COVID free Area" อย่างน้อย 1 แห่ง


นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ได้พิจารณาให้ความเห็นชอบการคงระดับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 29 จังหวัด พื้นที่ควบคุมสูงสุด 37 จังหวัด และพื้นที่ควบคุม 11 จังหวัด รวมทั้งให้คงมาตรการป้องกันควบคุมโรคตามระดับพื้นที่สถานการณ์ ไปจนถึง 30 ก.ย. 2564

ทั้งนี้ จะยังคงมาตรการเคอร์ฟิว ทำงานที่บ้าน เพิ่มความเข้มข้นในการควบคุมกำกับตามมาตรการ COVID Free Setting มาตรการควบคุมแบบบูรณาการในการปิดสถานที่เสี่ยงต่างๆ สื่อสารให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการ Universal Prevention โดยให้ศูนย์ปฏิบัติการ ศบค. กระทรวงมหาดไทย กรุงเทพมหานคร (กทม.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำกับดูแลผ่านคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ติดตามกำกับมาตรการที่กำหนด เพื่อควบคุมตัวเลขผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตไม่ให้เพิ่มขึ้น

นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า ส่วนเป้าหมายการให้บริการวัคซีนโควิด-19 ในเดือน ต.ค. 2564 ได้แก่ 1. เน้นให้ทุกจังหวัดฉีดครอบคลุมประชากรทั้งหมดอย่างน้อย 50% และแต่ละจังหวัดให้มีความครอบคลุม 70% อย่างน้อย 1 อำเภอ และมีต้นแบบ COVID free Area อย่างน้อย 1 พื้นที่ รวมทั้งเพิ่มความครอบคลุมในกลุ่มสูงอายุ ผู้มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค หญิงตั้งครรภ์ให้มากที่สุด ส่วนกลุ่มอื่นๆ ให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพิจารณา

2. ฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 สำหรับผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มแรก 3. ขยายกลุ่มอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเปิดภาคเรียน 4. ฉีดเข็มกระตุ้นผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนซิโนแวคครบ 2 เข็มในช่วงเดือน มี.ค. - พ.ค. 2564 5. ฉีดพื้นที่เศรษฐกิจและเพื่อควบคุมการระบาด ทั้งนี้ กรณีจัดหาวัคซีนได้มากกว่าหรือน้อยกว่า 24 ล้านโดส จำนวนที่จัดสรรจะปรับเพิ่มหรือลดตามสัดส่วนวัคซีนที่ได้รับ

ในส่วนของการให้บริการวัคซีนไฟเซอร์สำหรับผู้ที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป ได้แก่ นักเรียน นักศึกษาระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 หรือประกาศนียบัตรวิชาชีพหรือเทียบเท่า ให้บริการผ่านสถาบันการศึกษา อาทิ โรงเรียนมัธยมศึกษาสังกัดรัฐบาลและเอกชน สถานศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน สังกัดกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โรงเรียนสอนศาสนา สถาบันการศึกษาอื่นๆ ที่มีผู้มีอายุ 12 ปีขึ้นไปกำลังศึกษาอยู่ เช่น โรงเรียนทหาร เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม หากนักเรียนหรือนักศึกษาในสถาบันการศึกษาดังกล่าว มีอายุเกิน 18 ปี ให้รับวัคซีน Pfizer ได้พร้อมกับนักเรียนในโรงเรียน ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามสมัครใจของผู้ปกครองและเด็ก