ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

“ฉันเหมือนไม่ได้ถูกปล่อยให้เต้นมานานมากเลย ฉันอยากจะเต้น อยากจะฟังดนตรีสด รวมถึงพูดคุย สังสรรค์และพบปะผู้คน” ประโยคข้างต้นเป็นเสียงสะท้อนของประชากรรายหนึ่งทางตอนใต้ของลอนดอน ประเทศอังกฤษ อธิบายถึงความอดกลั้นและโหยหาชีวิตในยามค่ำคืน นับแต่วันที่มีประกาศล็อกดาวน์ครั้งที่ 3 ทั่วประเทศ ในช่วงเดือนมกราคม 2564 ที่ผ่านมา

ในช่วงกลางดึก หรือเวลาราวๆ เที่ยงคืนของวันที่ 19 ก.ค. 2564 ชาวอังกฤษ ส่วนหนึ่งต่างพากันออกมาเฉลิมฉลองให้กับวันแห่งเสรีภาพที่ไนต์คลับแห่งนี้ในกรุงลอนดอน ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 18 เดือน

ภายหลังริบบิ้นถูกตัด พร้อมกับเสียงดีเจที่ประกาศนับถอยหลังสู่เที่ยงคืน ผู้คนจำนวนมากต่างหลั่งไหลเข้ามาเพื่อจับจองพื้นที่เต้น ลูกบอลดิสโก้ระยิบเหนือหัว และเมื่อสิ้นเสียงประกาศในการเข้าสู่วันใหม่ ฝูงชนภายในร้านก็ได้ดื่มด่ำไปกับดนตรีสด ที่บรรเลงบทเพลงอมตะอย่าง “I want to dance with somebody” ในวันแห่งอิสรภาพ

ทั้งหมดนั้นเกิดขึ้นเพราะรัฐบาลอังกฤษ ได้ออกมาตรการคลายล็อกดาวน์ ในวันที่ 19 ก.ค. 2564 นี้ ภายใต้ชื่อ “Freedom day” หรือวันแห่งเสรีภาพ ท่ามกลางสถานการณ์ที่ยังมีผู้ติดเชื้อรายใหม่กว่า 4.4 หมื่นคน (ข้อมูลเมื่อวันที่ 18 ก.ค. 2564)

การคลายล็อกดาวน์ดังกล่าว ยังได้ลดมาตรการควบคุมการแพร่เชื้อโควิด-19 ลงไปจำนวนหนึ่ง เช่น ไม่จำกัดกลุ่มคนในงานสังสรรค์ ไม่ต้องรักษาระยะห่าง 1 เมตร ยกเว้นบางสถานที่อย่างโรงพยาบาล เป็นต้น ไม่จำกัดจำนวนคนในโรงละคร งานคอนเสิร์ต หรือการแข่งขันกีฬา ธุรกิจกลางคืนสามารถเปิดบริการได้ รวมไปถึงยกเลิกการบังคับสวมใส่หน้ากากอนามัยอีกต่อไป ยกเว้นในสถานที่ปิดหรือสถานที่ที่มีคนพลุกพล่าน ซึ่งการใส่หน้ากากอนามัยก็ยังจำเป็น

ด้าน นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีประเทศอังกฤษ ยังคงเตือนให้ประชาชนระมัดระวังและป้องกันตนเอง โดยเฉพาะการสวมหน้ากากอนามัยในบางสถานที่ แม้จะไม่มีข้อบังคับทางกฎหมาย แต่การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ยังไม่จบลง

ทว่าผู้เชี่ยวชาญและนักวิทยาศาสตร์บางราย ได้แสดงความกังวลถึงมาตรการดังกล่าว เช่น ศ.คริส วิตตี หัวหน้าเจ้าหน้าที่การแพทย์ของประเทศอังกฤษ เตือนว่า อังกฤษอาจจะต้องพบกับปัญหาอย่าวรวดเร็วอีกครั้ง เช่นเดียวกับ ดร.จูเลียน ตัง ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยา จากมหาวิทยาลัยเลสเตอร์ ที่ไม่เชื่อว่าผลลัพธ์จะออกมาดีสำหรับการใช้กลยุทธ์นี้ เพราะนอกจากจะเกิดความใกล้ชิดทางกายภาพแล้ว ประชาชนที่อายุระหว่าง 18-25 ปีบางราย ก็ยังฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ไม่ครบ 2 โดส

“ยังมีประชากรที่ยังฉีดวัคซีนโควิด-19 ไม่ครบ พวกเขาไม่ได้ใส่หน้ากากอนามัย หายใจและตะโกนร้องเพลงใกล้กัน รวมไปถึงเต้นกับผู้คนจำนวนมาก” ดร.จูเลียน แสดงความกังวล

อย่างไรก็ตาม การคลายมาตรการล็อกดาวน์ในครั้งนี้ ก็ได้เลื่อนออกมาจากที่เคยกำหนดไว้ในตอนแรก วันที่ 21 มิ.ย. 2564 มาเป็นวันที่ 19 ก.ค. แทน เนื่องจากรัฐบาลต้องการระดมฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับประชาชนวัยผู้ใหญ่มากที่สุด เพื่อต่อกรกับสายพันธุ์ “เดลต้า” ที่กำลังแพร่ระบาดในหลายพื้นที่ของอังกฤษอยู่ตอนนี้ ทำให้ตัวเลขการฉีดวัคซีนของประชากรวัยผู้ใหญ่อยู่ที่ 68.3% ซึ่งได้รับการฉีดแล้วครบทั้ง 2 โดส

อ้างอิง :
https://www.smh.com.au/world/europe/nightclubs-elated-but-england-s-freedom-day-could-leave-a-nasty-hangover-20210718-p58asi.html

https://apnews.com/article/lifestyle-europe-business-health-coronavirus-pandemic-7a18f092b6c6ebc1ecf85981a605733c

https://www.bbc.com/news/explainers-52530518