คนไข้เล่าประสบการณ์รักษาตัวที่บ้าน ยันไม่น่ากลัว-มีจนท.ติดตามอาการ ชุมชนสบายใจ-ไม่ต้องห่วงรอเตียง

ผู้ป่วยโควิด-19 เผยประสบการณ์รักษาตัวที่บ้าน "Home Isolation" มีเจ้าหน้าที่ รพ.ติดตามอาการตลอด รองประธานชุมชนชี้ข้อดีไม่ต้องรอเตียง-สบายใจว่าอยู่บ้านก็หายได้

น.ส.ธนวรรณ จันทกลม ชาวชุมชนนิมิตใหม่เมืองมีน เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร (กทม.) ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่รักษาตัวที่บ้าน (Home Isolation) เปิดเผยว่า ในระหว่างรับการรักษาตัวที่บ้านนั้นได้มีเจ้าหน้าที่โทรมาติดตามดูแลตลอด จึงอยากฝากถึงผู้ที่ติดเชื้อโควิดว่าไม่ต้องกลัว แม้ตอนเป็นใหม่ๆ ใจจะไปอยู่ที่ตาตุ่มเช่นเดียวกัน แต่ความจริงแล้วไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น

น.ส.ธนวรรณ กล่าวว่า ตนได้เข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่สำนักงานเขตสายไหม และทราบผลว่าติดเชื้อโควิดเมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 2564 ซึ่งเมื่อทราบผลแล้วรู้สึกตกใจและพยายามโทรหาสายด่วนต่างๆ เพื่อให้ช่วยประสานหาเตียงในโรงพยาบาลให้ อย่างไรก็ตามในขณะนั้นแต่ละโรงพยาบาลเตียงเต็มหมด ทำให้ไม่สามารถหาเตียงให้ได้ และต้องรออยู่ที่บ้าน

ทั้งนี้ ในช่วง 2 วันแรกนั้นค่อนข้างหนัก โดยรู้สึกเหนื่อยหอบหายใจลำบาก ระหว่างรอเตียงจึงหาน้ำขิง ฟ้าทะลายโจรมารับประทาน หรือถ้ามีไข้ก็ทานยาพาราเซตามอล ขณะที่เจ้าหน้าที่สายด่วน 1330 ได้โทรมาสอบถามอาการอยู่เรื่อยๆ ว่าเป็นอย่างไร ซึ่งได้รอเตียงจนกระทั่งวันที่ 6-7 ก.ค. แต่เตียงก็ยังไม่ว่าง ประจวบกับมีเจ้าหน้าที่ของเครือข่ายสลัมสี่ภาคติดต่อมาแจ้งรายละเอียดแนวทางการรักษาตัวที่บ้าน

"ได้รับการสอบถามว่ายินดีจะรักษาตัวที่บ้าน ภายใต้การดูแลของโรงพยาบาลปิยะเวทหรือไม่ จึงตอบตกลงและเข้าเป็นคนไข้ของโรงพยาบาล โดยได้รับสิ่งของต่างๆ ที่จำเป็นในการกักตัว รวมทั้งมีเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลและเครือข่ายสลัมสี่ภาคเข้ามาดูแลสอบถามอาการ ติดตามเรื่องการใช้ยา วัดไข้ วัดออกซิเจนทุกวัน" น.ส.ธนวรรณ กล่าว

น.ส.ธนวรรณ กล่าวอีกว่า ล่าสุดเมื่อวันที่ 9 ก.ค.ที่ผ่านมา ทาง รพ.ปิยะเวท ได้จัดหารถมารับไปเอกซเรย์ปอด ผลปรากฎว่าปอดปกติและแพทย์ประเมินว่าน่าจะหายแล้ว แต่ก็ต้องดูแลต่อจนครบ 14 วันแล้วตรวจหาเชื้ออีกครั้งว่ายังมีเชื้อเหลืออยู่หรือไม่ หากไม่มีแล้วจึงสามารถกลับไปใช้ชีวิตปกติได้

ขณะที่ น.ส.สิรินดา สิงห์โตทอง ผู้ประสานงานสถานการณ์โควิด-19 เครือข่ายสลัมสี่ภาค กล่าวว่า ขณะนั้นทางเครือข่ายสลัมสี่ภาคยังอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมในการทำ Home/Community Isolation ร่วมกับมูลนิธิสถาบันเพื่อการวิจัยและนวัตกรรมด้านเอชไอวี (IHRI) และ รพ.ปิยะเวท แล้วทางชุมชนแจ้งเข้ามาว่ามีเคสเร่งด่วน เพราะขณะนั้นอาการของ น.ส.ธนวรรณ จัดว่าอยู่ในระดับสีเหลืองแล้วและไม่มีเตียงให้

"ทุกคนกลัวว่าอาการจะหนักลงเรื่อยๆ ต่อมา น.ส.ธนวรรณ อาการเริ่มดีขึ้นแต่ก็ยังไม่ได้เตียงสักที สุดท้ายจึงแจ้งรายละเอียดและสอบถามความสมัครใจว่ายินดีจะรักษาตัวที่บ้านหรือไม่ ซึ่งทาง น.ส.ธนวรรณ ก็ตกลงและเข้าเป็นคนไข้ในระบบของ รพ.ปิยะเวท จนปัจจุบันได้เอกซเรย์ปอดแล้วเป็นปกติดี ทางแพทย์ประเมินว่าเชื้อน่าจะหมดแล้วเพราะผ่านมาหลายวัน แต่ก็ยังให้กักตัวไปอีกระยะหนึ่งก่อน

ด้าน นายสมยศ สุทธิธรรม รองประธานชุมชนนิมิตใหม่เมืองมิน กล่าวว่า ช่วงแรกมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในชุมชนรวม 5 คน ได้เข้ารักษาในโรงพยาบาล 3 คน และสมัครใจรักษาที่บ้าน 2 คน ซึ่งด้วยสถานการณ์ที่จำนวนผู้ติดเชื้อมีมากขึ้น ทำให้เกรงว่าจะเกิดการแพร่ระบาดในชุมชน จึงติดต่อทางเครือข่ายสลัมสี่ภาคให้ช่วยดูแลหาเตียงให้ผู้ติดเชื้อ และส่งตัวแทนชุมชนไปเข้ารับการอบรมเตรียมความพร้อมในการจัดบริการดูแลรักษาผู้ติดเชื้อที่บ้านและในชุมชน

"ตอนนั้นดูแล้วกลัวว่าโรคมันจะลาม ทางมูลนิธิพัฒนาที่อยู่อาศัยเขาบอกว่ามีโครงการรักษาผู้ป่วยที่บ้าน สนใจไหม ไม่ต้องไปแย่งเตียงโรงพยาบาลกัน ทาง น.ส.ธนวรรณ เขาก็รอรถมารับไปโรงพยาบาลอยู่หลายวันก็ไม่มาสักที สุดท้ายก็เลยตกลงว่าจะเข้าระบบดูแลรักษาตัวที่บ้าน พอเข้ารับการรักษาตามระบบตอนนี้ไปเอกซเรย์ปอดก็ปกติแล้ว" นายสมยศ กล่าว

นายสมยศ กล่าวว่า ในส่วนของบทบาทชุมชนในการดูแลผู้ติดเชื้อนั้น จะคอยไปติดตามอุณหภูมิร่างกายและระดับออกซิเจน แล้วรายงานศูนย์ของเครือข่ายสลัมสี่ภาค นอกจากนี้ยังคอยสอบถามอาการ ให้กำลังใจผู้ป่วย ดูแลเรื่องอาหารการกินและสิ่งของอื่นๆ ที่จำเป็นต้องใช้ รวมทั้งกำชับให้อยู่แต่ในบ้าน ซึ่งในเบื้องต้นจำนวนผู้ป่วยในชุมชนยังมีไม่มากจึงให้อยู่ที่บ้านก่อน แต่ถ้าในอนาคตมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นมาก ก็จะพิจารณาจัดตั้ง Community Isolation โดยใช้หอประชุมหมู่บ้านเป็นสถานที่กักตัว

"พอมีระบบดูแลผู้ป่วยที่บ้านก็รู้สึกว่าสบายใจ ว่าถ้าเกิดติดเชื้อขึ้นมาก็ไม่ต้องรอเตียง ไม่ต้องห่วงว่าจะมีรถมารับไหม มีเตียงให้ไหม และไม่แตกตื่น ถึงไม่มีเตียงให้ก็ไม่ตาย รักษาอยู่บ้านก็หายได้" นายสมยศ กล่าว