สพฉ.วอนได้เตียงแล้วอย่าปฏิเสธ ทำกระบวนการนำส่งผู้ติดเชื้อล่าช้า อาจมีความผิดตามกฎหมายได้

สพฉ.ขอความร่วมมือผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 อย่าปฏิเสธไปโรงพยาบาลสนามที่ได้รับการจัดสรรไว้ให้ ห่วงกระบวนการช่วยเหลือล่าช้า-อาจมีความผิดตามกฎหมาย

นายการันต์ ศรีวัฒนบูรพา ผู้ช่วยโฆษกสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) เปิดเผยว่า อยากขอความร่วมมือไปยังผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ที่ได้รับการจัดสรรเตียงปลายทางแล้ว ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ และไม่ปฏิเสธการไปยังโรงพยาบาลสนามที่จัดหาให้ เนื่องจากจะทำให้กระบวนการช่วยเหลือเกิดความล่าช้า และอาจมีความผิดตามกฎหมายได้

ทั้งนี้ ข้อมูลจาก สพฉ. เมื่อวันที่ 25 เม.ย. 2564 พบว่าได้รับข้อมูลรายชื่อผู้ป่วยจากหลายหน่วยงาน อาทิ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) หรือจากสายด่วนกรมการแพทย์ 1668 เป็นจำนวนรวมทั้งสิ้น 212 ราย โดยศูนย์นเรนทร สพฉ. ได้โทรศัพท์เพื่อตรวจสอบยืนยัน และสามารถนำผู้ป่วยส่งได้ 47 ราย นัดหมายนำส่งเช้าวันรุ่งขึ้น 55 ราย รวมเป็น 102 ราย

อย่างไรก็ตาม ในอีก 110 รายกลับยังไม่สามารถนำส่งได้ ซึ่งมาจากหลากหลายสาเหตุ เช่น ข้อมูลไม่ครบ ผู้ป่วยปฏิเสธ อยู่ระหว่างรอการไปตรวจซ้ำ รวมถึงบางส่วนได้มีการประสานไปโรงพยาบาลอื่นแล้ว

นายการันต์ กล่าวว่า สำหรับภารกิจเร่งด่วนของ สพฉ. ในการรับหน้าที่ประสานนำส่งผู้ป่วยที่อยู่ที่บ้าน ไปโรงพยาบาลสนามหรือสถานที่คัดกรอง มีจำนวนรถมาร่วมปฏิบัติการทั้งสิ้น 13 คัน โดยได้ออกไปรับผู้ป่วยทั้งหมดจำนวน 22 เที่ยว และในวันที่ 26 เม.ย. 2564 ได้มีหน่วยงาน องค์กร มูลนิธิจิตอาสาต่างๆ สนับสนุนรถและทีมงานมาร่วมเป็นชุดปฎิบัติการ ทำให้เพิ่มจำนวนรถขึ้นอีก 10 คัน จาก 8 หน่วยงาน