ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สื่อต่างประเทศรายงานผลวิจัย อ้างอิงจากงานวิจัยของ ศาสตราจารย์ ดร.เมซีย์ บานาค (Maciej Banach) ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจ มหาวิทยาลัยการแพทย์ล็อตซ์ ที่ตีพิมพ์ในวารสาร European Journal of Preventionive เมื่อวันที่ 8 ส.ค. 2566 โดยทำการศึกษา 17 ครั้งใน 6 ประเทศ ประกอบด้วย ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น นอร์เวย์ สเปน สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา รวมกรณีศึกษากว่า 2.2 แสนคน 

ผลการวิจัย พบว่า การเดินทุกวันเพียงแค่ 4,000 ก้าวต่อวัน จะช่วยลดความเสี่ยงการเสียชีวิตลงได้ รวมถึงยิ่งก้าวเดินมากขึ้นเท่าไหร่ในแต่ละวัน ความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตก็ลดลงไปเรื่อยๆ ที่สำคัญในกลุ่มคนที่ยังอายุน้อย หากมีการเดินอย่างสม่ำเสมอทุกวัน จะมีสุขภาพที่ดีกว่าผู้ใหญ่ที่เริ่มเดินเพื่อสุขภาพอีกด้วย 

ในงานวิจัยยังสะท้อนถึงมุมมองทางการแพทย์เกี่ยวกับโรคหลอดเลือดและหัวใจที่มีความสัมพันธ์กับการเดินเพื่อสุขภาพ อีกว่า การเดิน 1,000 ก้าวต่อวัน จะลดการเสียชีวิตลงได้ถึง 15% หากมีการทำอย่างสม่ำเสมอ และถ้าเดินอย่างน้อย 2,337 ก้าวต่อวัน ช่วยลดความเสี่ยงทางสุขภาพได้ ซึ่งถ้าเดินเพิ่มขึ้นต่อไปเรื่อยๆ ในทุกๆ 500 ก้าวต่อวัน จะลดความเสี่ยงการเสียชีวิตลงไปอีก 7%

3

นอกจากนี้ หากจำเพาะลงมาในช่วงวัยทำงานและวัยสูงอายุ การศึกษาพบว่า ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 60 ปี การเดินระหว่าง 7,000 - 1.3 หมื่่นก้าวต่อวัน จะช่วยลดความเสี่ยงโดยรวมของการเสียชีวิตลงได้ถึง 49% ขณะที่ผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป การเดิน 6,000 - 1 หมื่นก้าวต่อวัน ช่วยลดความเสี่ยงลงได้ 42%

ผลการศึกษาดังกล่าวถือว่าพลิกความท้าทายสำหรับการเดินเพื่อสุขภาพของผู้คนทั่วโลก ที่เชื่อมาตลอดว่าการเดินอย่างน้อย 1 หมื่นก้าวจะเป็นการส่งเสริมสุขภาพของตนเอง และเป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้หนีห่างจากโรคภัยไข้เจ็บ จนทำให้นักวิชาการต่างออกมาสะท้อนความเห็นในเชิงสนับสนุน

ผศ.อแมนดา พาลัค (Amanda Paluch) นักระบาดวิทยาและนักกายภาพศาสตร์ มหาวิทยาลัยแมสซาชูเซตส์ แอมเฮิสต์ บอกว่า เรื่องที่ว่าการเดิน 1 หมื่นก้าวต่อวัน ช่วยลดความเจ็บป่วยได้ กลายเป็นที่รับรู้ทั่วโลก เพราะเมื่อปี 2511 ญี่ปุ่นได้ผลิตเครื่องมือนับก้าวเดินที่เรียกว่า “Manpo-kei” ซึ่งแปลว่า “เครื่องวัดระยะทาง 1 หมื่นก้าว” 

2

ทั้งนี้ ด้วยตัวเลข 1 หมื่น เป็นตัวเลขที่จำได้ง่าย และแน่นอนว่ามีผลดีต่อสุขภาพสำหรับผู้ที่ทำได้อย่างสม่ำเสมอ ทว่า ข้อเท็จจริงดังกล่าว ตลอดเวลาที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ยืนยันว่า ทุกคนจำเป็นต้องเดินให้ถึง 1 หมื่นก้าวถึงจะสุขภาพดี หรือต้องเดินกี่ก้าวถึงจะสุขภาพดีกันแน่ 

นอกจากนี้ โดยเฉลี่ยแล้วผู้คนในสหรัฐฯ จะเดินกันประมาณ 4,774 ก้าวต่อวัน ซึ่งก็ได้ผลลัพธ์ที่ดี และการเดินประมาณ 5,000 ก้าวต่อวัน อาจเป็นเป้าหมายที่ดีกว่าก็ได้ กระนั้นผลการวิเคราะห์ใหม่ก็พบด้วยว่า คนที่เดินมากกว่าค่าเฉลี่ย หรือประมาณ 6,000 - 1 หมื่นก้าวต่อวัน มีความเสี่ยงเสียชีวิตลดลงถึง 60% เมื่อเทียบกับคนที่เดินเพียงแค่ 3,500 ก้าวต่อวัน 

ผศ.อแมนดา ย้ำว่า การเดินเพื่อสุขภาพจะทำให้สุขภาพของหัวใจดีขึ้น และยังลดความเสี่ยงของโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) โดยเฉพาะมะเร็ง เบาหวาน และยังช่วยลดภาวะสมองเสื่อมได้ด้วย 

อย่างไรก็ตาม การออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ ไม่ได้จำกัดแค่เพียงการเดินเท่านั้น แต่การออกกำลังกายที่ลงน้ำหนัก เช่น การปั่นจักรยาน เฉลี่ย 150 - 300 นาทีต่อสัปดาห์ หรือการวิ่งเหยาะๆ อย่างสม่ำเสเสมอ เฉลี่ย 75 - 150 นาทีต่อสัปดาห์ ก็จะช่วยให้สุขภาพดีและมีมวลกล้ามเนื้อมากขึ้นเช่นกัน 

อ่านบทความต้นฉบับ: https://www.nbcnews.com/health/health-news/daily-steps-to-lower-risk-of-death-rcna98754