ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สปสช. - สวทช. ผนึกความร่วมมือด้านการศึกษา วิจัยพัฒนา และประยุกต์ใช้นวัตกรรม เพื่อการให้บริการด้านสุขภาพของภาครัฐในระบบบัตรทอง


นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า สปสช.ให้ความสำคัญในส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ที่นำพาประเทศไปสู่ความก้าวหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งนวัตกรรมที่จะเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินงานในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) จึงได้ทำความร่วมมือกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในด้านการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อวิจัยและพัฒนาใน 5 ประเด็น ที่จะช่วยยกระดับการให้บริการบัตรทองได้

สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ จะดำเนินการใน 5 ประเด็น ประกอบด้วย 1. การส่งข้อมูลสำหรับเบิกจ่ายอิเล็กทรอนิกส์ (e-Claim Gateway) 2. การรับเรื่องร้องเรียนระดับเขตและระดับจังหวัด (Traffy Fondue) และจับคู่ความต้องการรักษาพยาบาลกับโรงพยาบาล 3. การให้ปรึกษาด้านการออกแบบคลาวน์ (Cloud Computing) 4. การใช้ประโยชน์จากข้อมูลจำนวนมากและปัญญาประดิษฐ์ (Big Data &AI) รวมทั้ง Dashboard สำหรับการบริหารจัดการ และ 5. การพัฒนา Roadmap สำหรับการวิจัยพัฒนาอุปกรณ์ทางการแพทย์ อุปกรณ์และอวัยวะเทียมในรายการสิทธิประโยชน์ มีระยะเวลาความร่วมมือ 2 ปี นับจากนี้

2

“การศึกษา การวิจัยพัฒนา และการประยุกต์ใช้นวัตกรรมทั้ง 5 ประเด็นนี้ ได้ผ่านการหารือและกลั่นกรองและวิเคราะห์ร่วมกันระหว่าง สปสช. และ สวทช. ซึ่งจะเป็นส่วนในการเพิ่มศักยภาพการดำเนินการและบริหารจัดการระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้ทั้งเป็นการต่อยอดระบบ A-MED Telehealth ระบบบริการทางการแพทย์ทางไกล ในการบันทึกข้อมูลบริการเพื่อส่งเบิกจ่าย และการรับเรื่องร้องเรียนผ่าน ทราฟฟี่ ฟองดูว์ ที่เพิ่มเติมในส่วนของไลน์" เลขาธิการ สปสช. กล่าว

ทางด้าน .ดร.ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าวว่า สวทช. เห็นความสำคัญของการทำงานร่วมกับ สปสช.ในการนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม (วทน.) ไปใช้เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนในวงกว้างและเป็นรูปธรรม ที่ผ่านมา สวทช. ได้นำผลงานงานวิจัยและพัฒนามาสนับสนุน ได้แก่แอพพลิเคชั่น ทราฟฟี่ ฟองดูว์ (Traffy Fondue): Dashboard สปสช. เพิ่มช่องทางรับข้อเสนอแนะสิทธิบัตรทอง ในการรับแจ้งเรื่องร้องเรียนและปัญหาการใช้สิทธิบัตรทอง ระหว่าง สปสช. กับประชาชนให้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ ปัจจุบันมีจำนวนเรื่องที่ร้องเรียน 766 เรื่อง แบ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับสิทธิบัตรทอง 470 เรื่อง (61.36%) แก้ไขเสร็จสิ้นแล้ว 463 เรื่องและอยู่ระหว่างดำเนินการ 7 เรื่อง ไม่เกี่ยวข้องและส่งต่อให้หน่วยงาน 296 เรื่อง (38.64% )เช่น แจ้งเรื่องฝุ่น จราจร และคนทิ้งขยะ เป็นต้น

3

สำหรับปัจจุบัน สปสช. กำลังเปิดให้ ไลน์ทราฟฟี่ฟองดูว์ เป็นอีกหนึ่งช่องทางใหม่ที่เพิ่มความสะดวกให้ประชาชนในการให้ความคิดเห็นต่อ "กองทุนบัตรทอง" ปี 2566 และยังร่วมมือ ในการขยายการทำงานร่วมกันจากแพลตฟอร์มA-MED Telehealth ไปสู่การออกแบบและพัฒนาระบบ e-Claim Gateway โดยนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เข้ามาช่วยในการทำงานเพื่อให้เกิดความคล่องตัวความรวดเร็วและความถูกต้องในการเบิกเคลมของโรงพยาบาลกับ สปสช.

นอกจากระบบ e-Claim Gateway แล้ว สวทช.ยังได้ร่วมมือกับ สปสช. และสภาเภสัชกรรม ต่อยอดแพลตฟอร์ม A-MED Telehealth ไปสู่ A-MED Care ระบบบริการดูแลผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บป่วยทั่วไป (Common illnesses) ใน 16 อาการ สำหรับผู้ถือสิทธิบัตรทอง สามารถขอรับยาได้ทันที ปัจจุบันให้บริการมากกว่า 900 ร้านยาคุณภาพ ให้บริการสะสมแล้วมากกว่า 1 แสนครั้ง โดยในปี 2566 ตั้งเป้าหมายขยายผลการให้บริการครอบคลุมร้านยาคุณภาพ 1,500 ร้านยา ซึ่งความร่วมมือของ 2 หน่วยงานในครั้งนี้ จะเป็นส่วนสำคัญในการนำ วทน. ไปใช้ โดยเฉพาะเทคโนโลยีด้านดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์ช่วยนำมาสู่คุณภาพและบริการสุขภาพที่ดีขึ้นในอนาคต