ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สธ. เตือน ลดความอ้วนไม่มีทางลัด การผ่าตัดกระเพาะมีไว้สำหรับผู้ป่วยโรคอ้วน ที่ไม่สามารถลดน้ำหนักด้วยวิธีอื่นได้แล้ว เท่านั้น


นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันประชาชนทุกช่วงวัยต่างให้ความสำคัญต่อการดูแลสุขภาพ ร่างกาย และบุคลิกภาพมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นหนุ่ม-สาว ซึ่งนอกจากจะมีความต้องการให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงแล้ว ในส่วนของรูปลักษณ์ทั้งใบหน้า รวมถึงร่างกายยังต้องมีความสวยงาม สมส่วน ด้วย

อย่างไรก็ตาม ด้วยพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ขาดการเอาใจใส่ต่อสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหารที่ให้พลังงาน และไขมันสูง อย่างจังค์ฟู๊ด รับประทานไม่เป็นเวลา และขาดการออกกำลังกาย จึงส่งผลให้ร่างกายสะสมไขมันมากเกินกว่าการเผาผลาญจึงก่อให้เกิดโรคอ้วน

สำหรับโรคอ้วน นอกจากจะส่งผลต่อบุคลิกภาพแล้ว ยังเป็นสาเหตุของโรคอื่นๆ อาทิ โรคหัวใจ โรคอัมพฤกษ์ อัมพาต โรคเบาหวาน และโรคความดันโลหิต ฯลฯ จึงอาจมีประชาชนบางราย ที่ต้องการศัลยกรรม อย่างการ ‘ผ่าตัดกระเพาะ’ ซึ่งกำลังเป็นที่กล่าวถึงในสื่อโซเชียลมาช่วยในการลดน้ำหนัก

1

2

ทั้งนี้ กรม สบส. ขอเตือนประชาชนว่า การผ่าตัดกระเพาะไม่ใช่ทางลัดในการลดน้ำหนักแต่อย่างใด แต่การผ่าตัดกระเพาะนั้น เป็นการรักษารูปแบบหนึ่งสำหรับผู้เป็นโรคอ้วนที่มีค่าดัชนีมวลกาย (Body Mass Index : BMI) เกิน 32.5 กิโลกรัมต่อตารางเมตร และผ่านการลดน้ำหนักด้วยวิธีอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมอาหารหรือการออกกำลังกายภายใต้การดูแลของแพทย์แล้ว แต่ไม่เป็นผล จึงจะสามารถเข้ารับการผ่าตัดกระเพาะอาหารได้ โดยมีจุดมุ่งหมายให้ผู้ป่วยมีสุขภาพกายและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ไม่ได้ทำเพื่อความสวยงาม

ทพ.อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรม สบส. กล่าวต่อว่า การผ่าตัดกระเพาะ เป็นการศัลยกรรมประเภทหนึ่งที่ใช้รักษาโรคเรื้อรัง ซึ่งจะต้องมีการปรึกษากับแพทย์ถึงความเสี่ยง ภาวะแทรกซ้อน และปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด และต้องกระทำในสถานพยาบาลที่ถูกต้องตามกฎหมาย

อย่างไรก็ตาม การดูแลสุขภาพร่างกายไม่ให้เกิดไขมันสะสมจนเป็นโรคอ้วนนั้น สามารถทำได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพให้เหมาะสม โดยการออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 30 นาที และควบคุมอาหาร ลดอาหารที่มีไขมันสูง ของทอดต่างๆ เพิ่มการรับประทานผัก ผลไม้ ซึ่งเป็นอาหารที่มีเส้นใย เพื่อช่วยดูดซึมไขมันคอเลสเตอรอลในเลือด ซึ่งจะเป็นการควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน