ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

เครือข่ายนักวิชาการและภาคประชาชนต้านภัยยาเสพติด รวม 39 ชีวิต ทำจดหมายเปิดผนึก ถึงนายกรัฐมนตรีและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ขอให้ชะลอการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ. กัญชา กัญชง พ.ศ. ... เป็นการชั่วคราว พร้อมกับเร่งให้มีการยกเลิกประกาศกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ฉบับปลดกัญชาจากการเป็นยาเสพติดทันที


เครือข่ายนักวิชาการและภาคประชาชนต้านภัยยาเสพติด รวม 39 ชีวิต ทำจดหมายเปิดผนึก เมื่อวันที่ 20 ต.ค. 2565 ถึงนายกรัฐมนตรีและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ขอให้ชะลอการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ. กัญชา กัญชง พ.ศ. ... เป็นการชั่วคราว พร้อมกับเร่งให้มีการยกเลิกประกาศกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ฉบับปลดกัญชาจากการเป็นยาเสพติดทันที

สำหรับสาระสำคัญของจดหมายเปิดผนึกฉบับนี้ คือการเรียกร้องให้ 1. ชะลอการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ เป็นการชั่วคราว 2. เร่งให้มีการยกเลิกประกาศ สธ. ฉบับปลดกัญชาจากการเป็นยาเสพติดในทันที   เมื่อมีการยกเลิกประกาศ สธ. ฉบับปลดกัญชาแล้ว จะทำให้สภาวะสุญญากาศปิดตัวลงทันที ผลกระทบด้านลบจะหายไป ระบบกัญชาทางการแพทย์ยังคงอยู่และพัฒนาให้ดีขึ้นได้

3. จากนั้นให้เปิดรับฟังความเห็นของประชาชนและผู้เกี่ยวข้องรอบด้านเพื่อประเมินว่าประเทศไทยต้องการกัญชาทางการแพทย์หรือกัญชาเพื่อนันทนาการ แล้วจึงออกแบบกฎหมายให้สอดคล้องประเทศไทยจะได้ประโยชน์สูงสุดและไม่เกิดโทษจากกัญชา และอนาคตลูกหลานไทยจะได้รับการปกป้อง

เครือข่ายนักวิชาการฯ ระบุว่า ด้วยปัญหายาเสพติดเป็นวาระระดับชาติในขณะนี้ การเปิดให้กัญชาเสรีโดยไม่มีกฎหมายควบคุมในสถานการณ์ปัจจุบันนี้ (ภาวะสุญญากาศ) จะยิ่งก่อให้เกิดปัญหามากยิ่งขึ้นในอนาคต เนื่องจากการใช้กัญชาเป็นประตูสู่การใช้ยาเสพติดอื่น (ดังตัวอย่างงานวิจัยของ Wilson และคณะ ที่เพิ่งตีพิมพ์ในวารสาร ADDICTION ในปี ค.ศ. 2022 นี้ รายงานว่าผู้ที่ใช้กัญชาจะริเริ่มใช้ยาเสพติดอื่น (เช่น ยาเสพติดกลุ่มฝิ่นและเฮโรอิน) คิดเป็น 2.76 เท่าของผู้ที่ไม่ได้ใช้กัญชา

อีกทั้งมีผู้ไม่เห็นด้วยกับนโยบายกัญชาเสรีจำนวนมาก ตัวอย่างเช่น แพทย์ทั่วประเทศจำนวน 1,363 ราย ร่วมกันออกแถลงการณ์ และ ประชาชนที่ร่วมลงชื่อใน change.org จำนวนกว่า 18,000 ราย แสดงเจตนารมณ์ต้องการให้ปิดสภาวะสุญญากาศกัญชาเสรีทันที

นอกจากนี้ การที่สภาผู้แทนราษฎรมีมติในวันที่ 14 ก.ยง 2565 ให้กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ. ... (ร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ) นำร่างฉบับนี้กลับไปพิจารณาทบทวนใหม่ เนื่องจากเนื้อหาของร่างกฎหมายฉบับนี้อนุญาตให้ใช้กัญชาเพื่อนันทนาการได้ แทนที่จะเป็นกัญชาทางการแพทย์อย่างที่อ้างไว้ตั้งแต่ต้น

เครือข่ายนักวิชาการฯ ระบุว่า ในการนี้เครือข่ายนักวิชาการและภาคประชาชนต้านภัยยาเสพติดขอเสนอแนวคิดและเหตุผลสนับสนุนการชะลอการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ เป็นการชั่วคราว และเร่งให้มีการยกเลิกประกาศ สธ. ฉบับปลดกัญชาจากการเป็นยาเสพติดทันที ดังนี้

  1. การพิจารณาเรื่อง พ.ร.บ.กัญชาฯฉบับนี้ จะพิจารณาเฉพาะตัว พ.ร.บ.กัญชาฯ ไม่ได้ ต้องมองภาพรวมสี่ส่วนไปพร้อมกัน คือ
    a.นโยบายพรรคการเมืองชูกัญชาเสรีทางการแพทย์และเพื่อเศรษฐกิจ (กล่าวหลายครั้งว่าไม่สนับสนุนกัญชาเพื่อนันทนาการ)

    b.แต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (หัวหน้าพรรคการเมือง) ใช้ประกาศกระทรวงสาธารณสุขปลดกัญชาจากการเป็นยาเสพติด ออกจากประมวลกฎหมายยาเสพติดแบบกระทันหัน ทำให้ดอกกัญชาถูกนำไปใช้สูบเพื่อนันทนาการได้โดยไม่ผิดกฎหมายยาเสพติด และไม่มีมาตรการควบคุมการใช้กัญชาในทางที่ผิดที่เพียงพอ ส่งผลให้เกิดภาวะ “กัญชาเสรีในสภาวะสุญญากาศ”

    c.พรรคการเมืองเสนอร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ ฉบับพรรคการเมือง ซึ่งเป็นกฎหมายที่ปลดกัญชาจากการเป็นยาเสพติดแบบถาวร อนุญาตให้ใช้กัญชาเพื่อนันทนาการได้ (แม้จะไม่มีคำว่านันทนาการก็ตาม) อนุญาตให้ปลูกกัญชาในครัวเรือนได้ไม่จำกัดจำนวน และมีเพียงมาตรการเดียวที่คุ้มครองกลุ่มเปราะบาง คือ ห้ามจำหน่ายกัญชากัญชงแก่เด็ก และสตรีมีครรภ์หรือให้นมบุตร   ซึ่งต่อมาได้พัฒนากลายเป็นร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ ฉบับกรรมาธิการที่ยังคงอนุญาตให้ใช้กัญชาเพื่อนันทนาการได้ อนุญาตให้ปลูกและสูบกัญชาในครัวเรือนได้โดยไม่มีมาตรการควบคุมการรั่วไหลไปใช้ในทางที่ผิด และมีมาตรการควบคุมการตลาดกัญชาในระดับที่ไม่เพียงพอ

    d.รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (บุคคลสำคัญของพรรคการเมือง) ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข แจกกัญชาหนึ่งล้านต้น ซึ่งจะทำให้ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ดอกกัญชาจะเต็มประเทศ ทั้งหมดนี้เป็นกิจกรรมย่อยของนโยบายเดียวกันที่จะทำให้เกิดการแพร่หลายของกัญชาที่สามารถนำไปใช้เพื่อนันทนาการในประเทศไทยอย่างมาก หากกัญชาไม่ใช่ยาเสพติด ดังนั้นการแก้ปัญหาเรื่องนี้จึงต้องเห็นภาพรวม ไม่ใช่การแก้เป็นส่วนๆ
     

  2. ดังนั้น การเร่งออกกฎหมาย ร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ ฉบับกรรมาธิการวิสามัญนี้ ไม่ใช่ทางแก้ปัญหาการเสพใช้กัญชาเพื่อนันทนาการในหมู่เยาวชนที่ได้ผลอย่างแท้จริง   สิ่งที่ควรทำขณะนี้

    a.ชะลอการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ เป็นการชั่วคราว

    b.เร่งให้มีการยกเลิกประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับปลดกัญชาจากการเป็นยาเสพติดในทันที   เมื่อมีการยกเลิกประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับปลดกัญชาแล้ว จะทำให้สภาวะสุญญากาศปิดตัวลงทันที ผลกระทบด้านลบจะหายไป ระบบกัญชาทางการแพทย์ยังคงอยู่และพัฒนาให้ดีขึ้นได้

    c.เปิดรับฟังความเห็นของประชาชนและผู้เกี่ยวข้องรอบด้านเพื่อประเมินว่าประเทศไทยต้องการกัญชาทางการแพทย์หรือกัญชาเพื่อนันทนาการ แล้วจึงออกแบบกฎหมายให้สอดคล้อง   ประเทศไทยจะได้ประโยชน์สูงสุดและไม่เกิดโทษจากกัญชา และอนาคตลูกหลานไทยจะได้รับการปกป้อง

อ่านจดหมายเปิดผนึกฉบับท่ีสี่