ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สธ. เตือนผู้สูงอายุ หากอาหารติดคอไม่ควรกลืนข้าวตาม พร้อมแนะวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น และวิธีปฏิบัติตัวในการกินอาหารให้ปลอดภัย เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิต


นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยเมื่อวันที่ 12 ก.ย. 2564 ตอนหนึ่งว่า จากกรณีการนำเสนอข่าวชายวัย  68 ปี กินข้าวกับเป็ดพะโล้ แล้วเกิดติดคอจึงได้กลืนข้าวตามเข้าไป แล้วเกิดอาการชักและเสียชีวิตในเวลาต่อมานั้น กรมอนามัยขอแสดงความเสียใจ และขอแนะนำให้ทุกบ้านดูแลการกินอาหารของผู้สูงอายุอย่างใกล้ชิด ซึ่งโดยปกติแล้ว การกลืนอาหารชิ้นใหญ่เพื่อช่วยแก้ปัญหาอาหารติดคอนั้นไม่ใช่วิธีการที่ถูกต้อง

ทั้งนี้ เนื่องจากกินชิ้นใหญ่หรือเคี้ยวไม่ละเอียด มีโอกาสเกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ เพราะผู้สูงอายุเป็นวัยที่มีความเปลี่ยนแปลงทั้งทางด้านกายภาพและระบบการทำงานต่างๆ ของร่างกาย รวมทั้งการกลืนอาหารด้วย

นอกจากนี้ ผู้สูงอายุยังมีอีกหลายปัจจัยที่ทำให้มีปัญหาการกลืนอาหาร เริ่มตั้งแต่ในช่องที่แห้ง ขาดน้ำลายในการปั้นอาหารเป็นก้อน ขอแนะนำให้กินวุ้นชุ่มปาก ซึ่งสามารถติดต่อสอบถามได้ที่มูลนิธิทันตนวัตกรรมได้ อีกทั้งฟันหรือกำลังของการบดเคี้ยวลดลง ทำให้ผู้สูงอายุต้องใช้เวลาบดเคี้ยวอาหารเพิ่มนานยิ่งขึ้น

อีกส่วนหนึ่งคือการทำงานของริมฝีปากและลิ้นลดลงเช่นกัน ทำให้ต้องกลืนอาหารหลายครั้งกว่าปกติ เสี่ยงต่อการสำลักอาหาร รวมถึงฝาปิดกล่องเสียงที่ป้องกันการไหลของอาหารลงสู่หลอดลมของผู้สูงอายุปิดช้ากว่าคนหนุ่มสาว ร่วมกับหูรูดหลอดอาหารเปิดรับอาหารสั้นลง ส่งผลให้อาหารอยู่ในคอหอยนานขึ้นและมีโอกาสเหลือค้างมากกว่าปกติ ประกอบกับการหยุดหายใจของผู้สูงอายุขณะกลืนจะต้องใช้เวลานานขึ้น จึงทำให้โอกาสที่จะเกิดการสำลักในขณะกลืนอาหารมีมากขึ้นตามไปด้วย

นพ.สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า วิธีการช่วยเหลือหากอาหารติดคอในกรณีไม่รุนแรง หายใจได้ ให้ไอเอาสิ่งที่ติดคอออกมาแล้วโทร 1669 หรือนำตัวผู้ป่วยส่งโรงพยาบาล ส่วนกรณีรุนแรง หายใจไม่ได้ ไอไม่ได้ หรือผู้ป่วยหมดสติ ให้แจ้ง 1669 และรีบปฐมพยาบาล โดยให้ผู้ช่วยปฐมพยาบาลยืนด้านหลังผู้ป่วยโอบรอบใต้รักแร้ มือข้างหนึ่งกำ โดยหันกำปั้นด้านนิ้วหัวแม่มือเข้าไปด้านในหน้าท้องผู้ป่วย แล้ววางไว้เหนือบริเวณสะดือแต่ใต้ลิ้นปี่ มืออีกข้างโอบกำปั้นไว้ และรัดกระตุกที่หน้าท้องขึ้นและเข้าพร้อม ๆ กัน แรง ๆ จนกว่าสิ่งแปลกปลอมจะหลุดออก หรือจนกว่าผู้ป่วยจะพูดหรือร้องออกมาได้ จากนั้นนำตัวผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลทันที

สำหรับคำแนะนำในการรับประทานอาหารอย่างถูกวิธี 1. นั่งตัวตรงขณะกินอาหาร และหลังกินเสร็จห้ามนอนทันที 2. เคี้ยวและกลืนอาหารช้า ๆ อย่างตั้งใจ ให้เวลากับมื้ออาหารอย่างเพียงพอ 3. อย่ากินอาหารขณะเหนื่อย ควรพักก่อนสัก 30 นาที 4.อาหารที่กินควรมีขนาดชิ้นเล็ก ๆ หรือพอดีคำ ไม่ใหญ่หรือเหนียวเกินไป

5. ลดสิ่งรบกวนขณะกินอาหาร เช่น การพูดคุย การดูทีวี เพื่อป้องกันการหัวเราะขณะกลืนอาหาร 6. กินอาหาร คำละ 1 ชนิด เนื่องจากอาหารที่มีเนื้อหลากหลายชนิดใน 1 คำจะสำลักง่าย 7. หลีกเลี่ยงการกินอาหารแห้งหรือแฉะเกินไป ควรมีน้ำซอสหรือน้ำซุปปริมาณพอเหมาะ ช่วยให้เนื้ออาหารชุ่มและนุ่มขึ้น​